homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 
 

สายเลือดนักอนุรักษ์…แห่งบ้านย่าหม

                ช่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นเดือนของเยาวชน เปิดโทรทัศน์ดูข่าวเด็กๆ เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เดือนหน้านักศึกษามหาวิทยาลัยจะสอบปลายภาคกันแล้ว

            ปลายเดือนที่แล้วเรามีโอกาสสนทนากันเยาวชน 2 คน จากหมู่บ้านย่าหมี จ.พังงา ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยใดๆ แต่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยชีวิต…มหาวิทยาลัยบ้านย่าหมี

            “มาลิก” หรือ “นัทพล  สิทธิ” เพิ่งอายุ 20 ปี ต้นๆ และ “สวัสดิ์  ถิ่นเกาะยาว” หรือ “บิว”  ผ่านวัยเบญจเพสได้เพียงปีเดียว

            พวกเขาทั้งสองเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่แห่งหมู่บ้านย่าหมี อ.เกาะยาว จ.พังงา ที่กล้าก้าวเข้าสู่แวดวง “นักอนุรักษ์” วงการสีเขียวที่แกนนำชุมชนบางคนกลายเป็นวีรบุรุษ เป็นตำนานของหมู่บ้านไปก็หลายคน

            ในครั้งแรก บิวและมาลิก เข้ามาร่วมกิจกรรมงานอนุรักษ์ของหมู่บ้านเมื่อปลายปี 2549 ชาวบ้านย่าหมีคัดค้านการสร้างท่าเทียบเรือสำราญ (มารีน่า) ของบริษัทเอกชนที่หาดคลองสน และนอนเฝ้าหน้าหาดเป็นเวลาหลายเดือน

            พวกเขานึกย้อนกลับไปครั้งอดีตสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น พบว่า วัยรุ่นต้องการแสวงสิ่งเร้าแปลกใหม่ แต่ที่สุดแล้วสิ่งที่ต้องการจริงๆ คือ “บ้าน” หมู่บ้านย่าหมี ที่เกิดและเติบโตมาต่างหาก

            แม้ว่าในวันที่พวกเขานอนเฝ้าหาดคลองสน ในช่วงที่คัดค้านสร้างท่าเทียบเรือสำราญ อ่าวคลองสนซึ่งมีลักษณะเป็นอ่าว มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่ง ที่สำคัญที่สุดของบ้านย่าหมี  จะรู้สึกสับสนและสงสัย ถามตัวเองทุกครั้งว่ากำลังทำอะไร แต่สำนึกที่ฝึกลึกในใจก็ตอบตัวเองว่า สิ่งที่ทำเพื่อปากท้องของพี่น้องชาวบ้านย่าหมี และช่วยปกป้องรักษาหม้อข้าวหม้อแกงของตัวเอง

บิว ถ่ายถอดถึงความสับสนระหว่าง ท่าเรือมารีน่า กับ อ่าวคลองสนว่า “บางทีคิดว่า มารีน่ามันเกี่ยวอะไรกับหม้อข้าวหม้อแกงของเรา พอมองกลับไปเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นก็เห็นภาพชัดขึ้นว่ามารีน่าเข้ามาก่อกวน เข้ามาทำลายสภาพสังคมแบบนี้ ทำลายพื้นที่ของสัตว์น้ำ ความสมบูรณ์ของทะเลในพื้นที่ สภาพแวดล้อมในพื้นที่เปลี่ยนไป สิ่งเหล่านี้เห็นได้ชัด”

            เหตุการณ์คัดค้านการสร้างท่าเทียบเรือมารีน่าได้ยุติลงแล้ว แต่บทเรียนถัดไปที่จะทดสอบสายเลือดนักอนุรักษ์ของพวกเขากำลังจะเริ่มขึ้น

            ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ชาวบ้านย่าหมี จำนวน 17 ราย ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจภูธรเกาะยาว จ.พังงา ด้วยข้อหาร่วมกันบุกรุกหรือเข้าไปทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร …และแน่นอนว่าทั้ง มาลิก และ บิว เป็น 2 ใน 17 คน ที่ได้รับหมายเรียกด้วยเช่นกัน สาเหตุที่ชาวบ้านพากันขึ้นไปสำรวจป่า เพราะเห็นคนงานของบริษัทเอกชนขึ้นไปถางป่า เอารถแบ็คโฮบุกรุกไปถึงสันเขา จุดประสงค์ที่ขึ้นไปดูเพื่อที่จะขึ้นไปดูป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่า “ช่องหลาด” ครอบคลุมพื้นที่ 5 หมู่บ้าน  2 ตำบล อ.เกาะยาว จ.พังงา

            แน่นอนว่ากิจกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง บางสถานการณ์มีความเสี่ยงบ้าง ความกลัวเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแต่เราต้องเปลี่ยนพลังความกลัวเป็นพลังแห่งการปกป้องทรัพยากรในชุมชนตัวเอง

            ในโลกของความจริง...สังคมของเรายังต้องการคนที่คิดและทำอย่าง บิว กับ มาลิก อีกเป็นจำนวนมาก
            และยังต้องการ “เยาวชน” ที่กล้าก้าวเข้ามาและบอกว่าตัวเองว่าจะ “คิด” และ “ทำ” อะไรเพื่อคนอื่นบ้าง
            การแสวงหาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
แต่...การได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมนั้น ทำให้ชีวิตมีความหมายมากกว่า

โดย  สุจารี  ไชยบุญ
Andaman Voice ภายใต้องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: