ความเป็นมา
ในปีพ.ศ.2533 ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต อันเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ตระหนักถึง ความสำคัญและปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและ สภาพความเป็นอยู่ของประชากรในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง จึงได้จัดทำโครงการรณรงค์เผยแพร่ความสำคัญและ ปัญหาของทรัพยากรธรรมชาติตามสถานศึกษาและตามที่สาธารณะต่างๆ ในเขตจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ซึ่งได้ผ่านประสบการณ์จากกิจกรรมมาแล้ว และได้สรุปบทเรียนหาแนวทางในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติโดยมองที่รากฐานการแก้ไขปัญหาจากท้องถิ่น ต่อมาพัฒนามาเป็น องค์กรชุมชน องค์กรท้องถิ่น ในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของตนเอง จึงได้ริเริ่มโครงการอนุรักษ์เต่าทะเลบ้านไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต เพื่อการอนุรักษ์แบบมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น แต่จากการดำเนินโครงการพบว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรต้องพัฒนาควบคู่กับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ จึงได้ปรับปรุงโครงการ เนื้อหาที่ตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรชุมชนท้องถิ่น จากการสำรวจทรัพยากรชายฝั่งทะเลและชุมชนชายฝั่งอันดามัน โดยร่วมกับกลุ่มพิงกันพัฒนา จังหวัดพังงา สมาคมหยาดฝน จังหวัดตรัง มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม และมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ในปีพ.ศ. 2536 - 2538 ได้จัดทำโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง จังหวัดพังงา และโครงการพัฒนาองค์กรชุมชนชายฝั่งทะเล จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิเอเชีย และสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตามลำดับ ซึ่งได้เน้นชุมชนชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดภูเก็ต พังงา เป็นเป้าหมายหลัก สำหรับจังหวัดกระบี่ เน้นการรณรงค์เผยแพร่การมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรโดยชุมชน
ช่วงเดือนสิงหาคม 2538 - กันยายน 2539 เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครภาคสนามในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ จากกลุ่มพิงกันพัฒนา จังหวัดพังงาและชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภูเก็ต มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ร่วมสรุปวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน สถานการณ์ทรัพยากรชายฝั่ง และชุมชนชาวประมงพื้นบ้านในเขตพื้นที่เป้าหมายโดยรวม ว่าในทางภูมิศาสตร์หมู่บ้านเป้าหมายทั้งหมดอยู่ในอ่าวพังงา ลักษณะวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านเป็นระบบเครือญาติ เชื่อมโยงกัน มีพื้นที่การทำการประมงอยู่ในอ่าวเดียวกัน จึงได้จัดทำข้อตกลงและยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกัน ภายใต้แผนแม่บทโครงการความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน ( ARR ) อีกทั้งการวางแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกขยายผลการทำงานไปยังหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านในเขตตอนเหนือของจังหวัดพังงา และตอนใต้ของจังหวัดระนอง ( แถบชายฝั่งทะเลกิ่งอำเภอสุขสำราญ อำเภอกะเปอร์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง )
ทั้งนี้ภายใต้ยุทธศาสตร์ร่วมกันของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม 4 องค์กร คือ กลุ่มพิงกันพัฒนา ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคมและมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยจัดโครงสร้างการทำงานใหม่ เป็นงานสำนักงานและงานภาคสนาม โดยมีคณะกรรมการบริหารโครงการ ( บุคคลในท้องถิ่น ) และคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ดูแลและให้คำปรึกษา เพื่อสะดวกและสอดคล้องในการปฏิบัติงานขององค์กร หน่วยงานสนับสนุนจาก CAA องค์กรพัฒนาเอกชนจากประเทศออสเตรเลีย TACAP โครงการสนับสนุนงานพัฒนาในประเทศไทยของสถานฑูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย อีกทั้ง WWF สนับสนุนโครงการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและชายฝั่งทะเลประเทศไทย ผ่านทางมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแหงประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ DENCED โครงการความร่วมมือจากประเทศแคนาดา สนับสนุนโครงการจัดการทรัพยากรชายฝั่งภาคใต้ ผ่านทางคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ( กป.อพช. ) ต่อมาได้พัฒนาจัดตั้งเป็นองค์กรมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ( SDF ) ซึ่งแนวทางในช่วงระยะดังกล่าวนี้มุ่งเน้นเสริมศักยภาพให้เกิด ขบวนการของชาวประมงพื้นบ้านทั่วภาคใต้ในนามสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ เกิดการพัฒนาองค์กรชาวประมงพื้นบ้านในแต่ละพื้นที่ สำหรับในส่วนของโครงการความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน ( ARR ) นั้นรับผิดชอบในพื้นที่ 5 จังหวัดอันดามัน อันได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนองและสตูล
ในเดือนตุลาคม 2539 กันยายน 2545 ภายใต้ชื่อองค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน ( ARR ) ยังคงดำเนินการตามโครงการพัฒนาองค์กรชาวประมงพื้นบ้านอันดามัน เพื่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืนขึ้น โดยความร่วมมือและสนับสนุนจาก NOVIB องค์กรพัฒนาเอกชนจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และหน่วยงานภาครัฐ เช่น สถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเลจ.ภูเก็ต สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา เป็นต้น โดยมีเป้าประสงค์ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาของ ชุมชนชาวประมงพื้นบ้านและปัญหาการจัดการทรัพยากรชายฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ชาวประมงพื้นบ้านในนามสมัชชาชาวประมงพื้นบ้านอันดามันและ สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ได้ร่วมกันพัฒนาและรณรงค์นโยบายการแก้ไขปัญหาของชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่อ่าวพังงา ( ภูเก็ต พังงา กระบี่ ) โดยการขยายเขตหวงห้ามใช้เครื่องมือประมงอวนรุน อวนลากประกอบกับเครื่องยนต์ทำการประมงในเขตอ่าวพังงา อีกทั้งการรณรงค์สร้างการมีส่วนร่วมต่อสาธารณชน ในด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ปัญหา แนวทางแก้ไข ชุมชนประมงพื้นบ้านในรูปแบบต่างๆทางสื่อสารมวลชน เช่น หนังสืองานวิจัยเรื่อง หัวโทง พัฒนาการชาวประมงพื้นบ้านอันดามัน วารสารคนกู้ทะเล วารสารสมัชชาอันดามัน วารสารสมาพันธ์ ฯ รายการวิทยุลมหายใจแห่งท้องทุ่ง
ตุลาคม 2545 ปัจจุบัน ( กันยายน 2550 ) เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครภาคสนามยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชุมชนชายฝั่งอ่าวพังงา ในนามมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ หลังจากโครงการความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน ( ARR ) ได้ยุติบทบาทการดำเนินงานชั่วคราว เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครบางส่วนได้ดำเนินการต่อเนื่องในพื้นที่ ในรูปแบบองค์กรท้องถิ่น เช่น โครงการฯอันดามันจังหวัดสตูล โครงการความมั่นคงทางอาหารอ่าวพังงา เป็นต้น ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้พอจะสรุปเบื้องต้นได้เป็น 2 ช่วง คือ
ช่วงที่ 1 ก่อนเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ( 26 ธันวาคม 2547 ) ปี ตุลาคม 2545 มีนาคม 2548 จัดทำโครงการพัฒนาองค์กรชุมชนเพื่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งภูเก็ต พังงา ภายใต้การสนับสนุนจากคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ( กป.อพช. ) มูลนิธิกองทุนไทย ( DSC ) มุ่งเน้นการสร้างรูปธรรมของกระบวนการชุมชนในระดับพื้นที่ เช่น การจัดการทรัพยากรชายฝั่งและเศรษฐกิจโดยชุมชน การสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน การติดตามและพัฒนา นโยบาย เช่น การจัดทำโครงการจัดการป่าชายเลนแบบมีส่วนร่วมโดยภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดามัน ภูเก็ต - พังงา เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากแผนงานการจัดการป่า ( SGP PTF ) EU UNDP ดำเนินการโดยคณะดำเนินงานการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภูเก็ต พังงา สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ และมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อีกทั้งได้มีการจัดทำโครงการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน องค์กรพัฒนาเอกชนและชุมชนชายฝั่งในการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอ่าวพังงา ได้รับการสนับสนุนจากโครงการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ( CHARM )
ช่วงที่ 2 หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 มีการสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาชุมชนที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์สึนามิอย่างเร่งด่วนในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต พังงา และอีกทั้งกิจกรรมกองทุนหมุนเวียนเครื่องมือประมง ในหมู่บ้านของจังหวัดกระบี่ ระนอง ตรังและสตูล ตามโครงการฟื้นฟูเร่งด่วนผู้ประสบภัยตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา โครงการช่วยเหลือเร่งด่วนผู้ประสบภัยสึนามิภูเก็ต - พังงา สนับสนุนโดยโครงการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ( CHARM ) โครงการฟื้นฟูชุมชนและระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล พื้นที่ประสบภัยจังหวัดภูเก็ต - พังงา สนับสนุนโดย UNDP โครงการความช่วยเหลือเร่งด่วนชาวประมงผู้ประสบภัยสึนามิจังหวัดพังงา สนับสนุนโดยสถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย โครงการความช่วยเหลือเร่งด่วนเครื่องยนต์ และอุปกรณ์การประมงแก่กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากธรณีพิบัติภัย 6 จังหวัดอันดามัน ( ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล ) สนับสนุนโดย FAO/UNDP-THA/05/002/01/12 โครงการศึกษาและเตรียมความพร้อมชุมชน ได้รับการสนับสนุนจากโครงการบ้านที่อยู่อาศัยผู้ประสบภัยปากจก โดย SECOURS POPULAIRE FRANCAIS ( S.P.F.) โครงการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มเกษตรกรปลูกพืชไร้ดินจังหวัดพังงา ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ สำนักงานประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ประเทศไทย โครงการปฏิบัติการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับชุมชนในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่น ต.พรุใน และ ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิเอเชีย ประจำประเทศไทย โครงการฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนและระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล จ.ภูเก็ต พังงา โดยการสนับสนุนจากสถานทูตอเมริกา ประจำประเทศไทย
จากการดำเนินงานช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาหลายชุมชน ได้เกิดการขยายกลุ่มกิจกรรมภายในชุมชน มีรูปธรรมในการมีส่วนร่วมและจัดการทรัพยากรชายฝั่งของชุมชน ชัดเจนขึ้น เช่น การจัดการป่าชายเลนชุมชน แหล่งหญ้าทะเล แหล่งปะการัง ซึ่งเป็นฐานทรัพยากรชายฝั่งที่สำคัญที่ชุมชนเข้าไปมีบทบาทในการฟื้นฟู ดูแล เฝ้าระวัง และทางด้านเศรษฐกิจชุมชนหลายชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากกองทุนช่วยเหลือสึนามิเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการจัดการของชุมชน การบริหารระบบหนี้สินของสมาชิกภายในชุมชน เป็นต้น ทางด้านชุมชนพื้นที่ประสบภัยสึนามิหลายชุมชนได้ถูกนำมาเกาะเกี่ยวกับเครือข่ายองค์กรชุมชนชายฝั่ง ทำให้เห็นได้ว่าเกิดการขยายพื้นที่ของเครือข่ายออกไปอย่างชัดเจน นอกจากนี้การแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรชายฝั่งที่เกิดจากโครงการพัฒนาทั้งภาครัฐและ เอกชนสามารถที่จะเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่สำคัญของชุมชนในอนาคต หากสถานการณ์เหล่านี้ไม่เกิดขึ้น การพัฒนาที่ยั่งยืนก็จะสามารถดำเนินการไปได้ดี ดังนั้นในช่วงรอยต่อในระยะต่อไป การเรียนรู้และเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนจะต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อเท่าทันกับ สถานการณ์ใหม่ๆที่เกิดขึ้นกับชุมชนและที่สำคัญสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือภาวะโลกร้อน ที่ชุมชนจะต้องเรียนรู้และปรับตัวเพื่อการจัดการอย่างมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน อีกทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประทศก็ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจและวิถีชีวิตชุมชน
ถึงแม้ว่าเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2550 คณะกรรมการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ประกาศยุติการดำเนินงานของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทำการเลิกจ้างพนักงานและอาสาสมัครทุกคนโดยให้เหตุผลว่าเงินทุนในการบริหารองค์กรหมดลง เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครภาคสนามในพื้นที่ภูเก็ต พังงา ยังคงรวมตัวและมีเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ในการสานงานให้บรรลุสิ่งที่คาดหวังและตั้งใจต่อไป ฉะนั้นองค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน ( ARR ) ยังคงมีภารกิจที่จะต้องเดินหน้าต่อไปตามความมุ่งหวังที่จะเห็น ท้องทะเลมีปลา ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
องค์กรสนับสนุนงบประมาณ
- WWF ( ปีพ.ศ.2532 2545 )
- สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ( LDI ) ( ปีพ.ศ.2537 2539 )
- สถานทูตออสเตรเลีย ( ปีพ.ศ.2538 - 2539 )
- มูลนิธิกองทุนไทย ( DSC ) ( ปีพ.ศ.2546 2547 )
- Novib - oxfaml ( ปีพ.ศ.2539 2544 )
- มูลนิธิเอเซีย ( ปีพ.ศ.2537 2538และ 2549 - 2550 )
- UNDP ( ปีพ.ศ.2547 2549 )
- สถานทูตญี่ปุ่น ( ปีพ.ศ.2548 2549 )
- SPF ( พ.ค. ส.ค. พ.ศ.2549 )
- สถานทูตสหรัฐอเมริกา ( ปีพ.ศ.2549 2550 )
- มูลนิธิรักษ์ไทย ( ปีพ.ศ.2548 2549 )
- FAO ( ปีพ.ศ.2549 2550 )
- โครงการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ( CHARM ) ( ปีพ.ศ.2547 2550 )
- ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ( จ.ภูเก็ต )
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- มูลนิธิซีเมนต์ไทย
- อ๊อกแฟมล์ ( UK )
|