เลี้ยงน้ำชา หาทุนสู้คดีชาวบ้านย่าหมี (1)
ภูเก็ตโพสต์ 1-15 มกราคม 2552
ยามบ่ายวันที่ 18 ธันวาคม ในเรือโดยสารพร้อมด้วยพี่น้องชาวบ้านคนจนจาก จ.ภูเก็ต พังงาและเครือข่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนักข่าว
...ปลายทางของทุกคนอยู่ที่งานเสวนา เลี้ยงน้ำชาทุนสู้คดี ปกป้องป่าควนย่าหมี เกาะยาวใหญ่ บ้านย่าหมี
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2545 หมู่บ้านย่าหมี ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เมือง จ.พังงา ได้รับรางวัลชมเชยลูกโลกสีเขียว ประเภทชุมชน เป็นผลจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านย่าหมีดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูและจัดการป่าชายเลนชุมชน จนความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมา
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ชาวบ้านย่าหมี จำนวน 17 ราย ได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจภูธร อ.เกาะยาว จ.พังงา ด้วยข้อหาร่วมกันบุกรุกหรือเข้าไปทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข และร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร (ต้นงวงช้าง)
ชาวบ้านผู้ปกป้องป่า ตกเป็นผู้ต้องหาไปแล้วหรือ?
กลางปี 2550 ชาวบ้านย่าหมีสังเกตเห็นบนภูเขามีการใช้รถแบ๊คโฮไถเปลี่ยนสภาพจากพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าสมบูรณ์เป็นการปลูกกล้วย มะพร้าว เฟื่องฟ้า และถางป่าทำให้กลายสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขา ชื่อ "ควนย่าหมี เขาช่องหลาด" ซึ่งมีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าช่องหลาด จึงช่วยกันสืบหาความจริง และพบว่า มีบริษัทร่วมทุนต่างชาติกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านและออกเอกสารสิทธิครอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าช่องหลาดที่อยู่ในเขตบ้านย่าหมีด้วย
กลางเดือนธันวาคม 2550 ชาวบ้านย่าหมีกว่า 30 คน ได้รวมตัวกันเข้าไปสำรวจพื้นที่ป่าต้นน้ำของชุมชนหลังจากได้มีการนำรถแบ๊คโฮเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ นั้นเป็นที่มาของการตกเป็นผู้ต้องหา และผู้ที่ยื่นหยิบยื่นข้อกล่าวหานี้ก็คือบริษัทเอกชนกำลังบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ อยู่นั่นเอง
การเสวนาและเลี้ยงน้ำชาของชาวบ้านย่าหมีครั้งนี้เพื่อระดมทุนและหาเงินสำหรับการสู้คดี เพื่อยืนยันว่า การดูแลและปกป้องป่าสงวนแห่งชาติ นั้นเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว
การมาเยือนของพี่น้องเครือข่ายคนจนจะสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้านย่าหมีได้มาก แต่ในแววตาแฝงความกังวลพอสมควร
เพราะชาวบ้านย่าหมีทุกคนรู้ดีว่า การต่อสู้เพื่อปกป้องป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะของรัฐ ในครั้งนี้ต้องสู้กับกลุ่มคนที่ไม่ธรรมดา... เป็นกลุ่มคนที่มีเงิน อำนาจ เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างความหวาดหวั่นขึ้นในใจได้
และชาวย่าหมีทุกคนรู้ดีว่าการปกป้องป่าสงวนแห่งชาติเป็นการกระทำที่ถูกแล้ว จึงไม่ต้องเกรงกลัวต่ออิทธิพล อำนาจใดๆ
ยามบ่ายของวันรุ่งขึ้นในเรือโดยสารพร้อมด้วยพี่น้องชาวบ้านคนจนจาก จ.ภูเก็ต พังงาและเครือข่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนักข่าว
...ปลายทางของทุกคนอยู่ที่ท่าเรือบางโรง จ.ภูเก็ต แต่ทิ้งหัวใจแห่งการต่อสู้ไว้ที่บ้านย่าหมี
โดย สุจารี ไชยบุญ
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน |