เที่ยวหนึ่งวันที่บางพัฒน์
.
เรื่อง กวินทรา ใจซื่อ
ภาพ โครงการความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน
เส้นทางที่ขนาบไปด้วยป่าชายเลนที่แน่นขนัด กำลังพาเรามุ่งหน้าสู่บ้านบางพัฒน์ หมู่บ้านที่มีเรื่องราวเล่าขานกันมานานถึงความสามัคคีในการพัฒนาหมู่บ้านจนเป็นแบบอย่างให้ชุมชนอื่นๆ ได้กล่าวขวัญถึงเรื่องราวความสามัคคีของชุมชนแห่งนี้
สะพานคอนกรีตที่ทอดตัวยาว ระยะทางประมาณ 300 เมตร ผ่านทะเลอันดามันและป่าโกงกางผืนใหญ่ มีจุดสิ้นสุดที่บ้างบางพัฒน์ หมู่ที่ 8 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา ชุมชนขนาดเล็กตั้งอยู่ในเกาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอ่าวพังงา ชาวบ้านที่นี่เป็นลูกน้ำเค็มเต็มตัว การหาอยู่หากินล้วนต้องพึ่งพาทรัพยากรทางทะเล ด้วยเพราะสภาพทางภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน การทำประมงพื้นบ้านจึงกลายเป็นอาชีพหลักของคนที่นี่
ป๊ะยามาดี หรือนายสวัสดี วาหะรักษ์ อดีตผู้ใหญ่บ้านคนแรกแห่งชุมชนบ้านบางพัฒน์ เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของชุมชนที่ผ่านมาเมื่อสมัยยังเด็กว่า ชุมชนบ้านบางพัฒน์มีอดีตยาวนานกว่า 100 ปีมาแล้ว คนที่ค้นพบบ้านบางพัฒน์เป็นคนแรกมีชื่อว่านายด้วน บุตรเหรด เป็นชาวจังหวัดกระบี่ ที่แจวเรือผ่านมาแล้วได้ขึ้นมาอาศัยอยู่ชั่วคราว ต่อมาในปี พ.ศ. 2496 โต๊ะยีมาเสน ศุภรส เป็นคนแรกที่เข้ามาสร้างหลักปักฐานอาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ จนเป็นชุมชนบ้านบางพัฒน์ในปัจจุบัน
แต่เดิมนั้นชุมชนบ้านบางพัฒน์เรียกว่าบ้านบางลิงสาเหตุมาจากในชุมชนมีลิงกังฝูงใหญ่อาศัยอยู่ในป่าโกงกางเป็นจำนวนมาก ที่มาของการเปลี่ยนชื่อจากบ้านบางลิงมาเป็นบ้านบางพัฒน์นั้น ป๊ะยามาดี ได้เล่าให้ฟังว่า ในสมัยอดีต ชุมชนบ้านบางพัฒน์เป็นชุมชนที่อยู่ห่างไกลและกันดารที่สุดในจังหวัดพังงา ชุมชนจึงล้าหลังกว่าชุมชนอื่นๆ การเข้ามาให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐเพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ในชุมชนมีความล่าช้ามาก เราไม่ขอให้ใครมาช่วย เพราะขอแล้วเขาก็ไม่ให้ เราพึ่งตัวเองดีที่สุด ป๊ะยามาดีเล่า
การพัฒนาชุมชนของบ้านบางพัฒน์จึงเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้านในชุมชนทุกคน ในอดีตนั้น ชาวบ้านมีกฎข้อยึดถือปฏิบัติในชุมชนร่วมกันคือ ในทุกวันศุกร์ทุกคนจะวางมือจากงานส่วนตัว เพื่อที่จะมาร่วมกันพัฒนาชุมชน หากใครไม่เข้าร่วมจะปรับเป็นเงินครั้งละ 50 บาท ที่ผ่านมาได้ปรับเงินไปเพียง 100 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้บริจาคปูไข่นอกกระดองครอบครัวละ 1-2 ตัว เพื่อนำไปรวมกันที่ธนาคารปูของชุมชน หลังจากที่ปล่อยลูกปูสู่ทะเลแล้ว ก็จะนำแม่ปูไปขายแล้วนำเงินเข้ากองกลางเพื่อนำไปพัฒนาชุมชน
สภาพบ้านเรือนที่ปลูกสร้างขึ้นนั้นตั้งอยู่บนเกาะท่ามกลางป่าโกงกางผืนใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังเดี่ยวยกพื้นสูงเหนือระดับน้ำทะเล สะพานที่ทอดตัวยาวเข้าสู่บ้านแต่ละหลัง นำกิ่งไม้จากป่าชายเลนมาใช้ประโยนช์อย่างรู้คุณค่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ส่วนหนึ่งคือการจัดการทรัพยากรไม้ป่าชายเลนอย่างรู้คุณค่าของชุมชนเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน จากอดีตที่เคยใช้ไม้โกงกางสร้างบ้าน สร้างสะพาน และทางเดินเข้าบ้าน ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นสะพานคอนกรีต เพื่อลดการตัดไม้ในพื้นที่ป่าชายเลน เหลือเพียงการทำสะพานทางเข้าบ้านแต่ละหลังและทำลานบ้าน เพื่อสำหรับใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ เช่น ตากปลา ตากกุ้งเคยเพื่อนำไปทำกะปิ เป็นต้น นอกจากนี้ชาวบ้านได้ร่วมจัดกิจกรรมเฝ้าระวังดูแลรักษาป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการเพาะขยายพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลนเพื่อนำไปปลูกป่าในชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่คนรุ่นใหม่ ให้รักษาผืนแผ่นดินถิ่นที่อยู่อาศัยของบรรพบุรุษที่ได้ดูแลไว้ให้เป็นแหล่งหาอยู่หากิน ของลูกหลานในชุมชน
เสน่ห์ของที่นี่มีให้ชื่นชมมากมาย ทั้งอัธยาศัย ความโอบอ้อมอารีมีน้ำใจของชาวบ้าน สภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ จึงสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย และหากคุณได้แวะมาสักครั้ง บ้านบางพัฒน์ก็จะเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่จะสร้างความประทับใจไปอีกนาน
ขอขอบคุณ
ชาวบ้านบางพัฒน์ หมู่ที่ 8 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา
คุณบรรดิษฐ์ ติงหวัง เจ้าหน้าที่ภาคสนาม โครงการความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน |