homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 

ในนามของการพัฒนา (จบ)

ภูเก็ตโพสต์ ฉบับวันที่ 16 – 31 กรกฎาคม 2554

            เมื่อพูดถึง “การพัฒนา” เรามักจะเข้าใจและตีความกันว่าคือการพยายามทำให้สิ่งที่มีอยู่นั้นดีขึ้นและคิดว่าการพัฒนานั้นมีแต่เรื่องดีๆ โดยที่ไม่มีใครคิดถึงผลเสียที่เกิดขึ้นพร้อมกับสิ่งดีๆ  

            นอกจากนี้การพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมไร้ปล่องควันหรือการท่องเที่ยวยังเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนทุกส่วน แต่เจริญ ถิ่นเกาะแก้ว มีความเห็นที่แตกต่าง
“การพัฒนาดีตรงที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอาจจะกระจุกตัวอยู่กับบางกลุ่ม การพัฒนาที่เกื้อกูลต่อคน และชุมชนชายฝั่งแทบจะไม่ได้รับผลประโยชน์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นเพราะต้องขับเรืออออกไปหากินไกลขึ้น ถ้ามองการพัฒนาในแง่ของจีดีพีน่าจะดีในแง่ของการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ สร้างวัตถุขึ้นมา แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาบริเวณชายหาด บริเวณที่ชาวบ้านเคยหาหอย หาปู ปลา หน้าดินถูกชะล้างโคลนลงมาทำให้หญ้าทะเลตายเยอะ (บริเวณยามู) ลงมาที่เกาะแก้วก็จะมีต้นเหงือกปลาหมอเยอะ ตอนนี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เรามองเพียงแค่พื้นที่เกาะแก้วผลกระทบค่อนข้างสูง ที่กมลามีปะการังตายเยอะมากเป็นผลมาจากการเปิดหน้าดินทำให้โคลนไหลลงทะเล การพัฒนาตรงนี้ถามว่าชาวบ้านมีสิทธิ์ปฏิเสธไหม ชาวบ้านไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ชาวบ้านก็ไม่ตัวเลือกเพราะไม่ถูกทำให้เลือก”

            กระแสการพัฒนาเริ่มเป็นที่สนใจและแพร่กระจายมากในทั่วโลกหลังจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกับแนวคิดเน้นเศรษฐกิจเป็นศูนย์กลางของการพัฒนากลายเป็นแนวการพัฒนากระแสหลักเป็นผลทำให้เกิดกิจกรรมโครงการพัฒนาต่างๆ มากมายและคาดการณ์ว่า การพัฒนาต่างๆ จะก่อให้เกิดความเจริญ ผู้คนอยู่ดี กินดี สภาพแวดล้อมดีขึ้น สังคมสงบสุขขึ้น มีตัวชี้วัดที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อวันเวลาผ่านไปกว่า 3 ทศวรรษ พบความจริงที่ว่าผลจากแนวทางการพัฒนาดังกล่าวกลับนำสังคมไปสู่หายนะ ประชาชนยากจนอยู่อย่างลำบาก เกิดการเอารัดเอาเปรียบในสังคมมากขึ้น ช่องว่างระหว่างคนรวย คนจนมีมากขึ้น  ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมเพราะมีการใช้ประโยชน์ปราศจากการวางแผน

            ถ้ายังจำกันได้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ซึ่งเป็นแผนพัฒนาฯ ฉบับแรกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอความคิดและนโยบาย และนั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดการพัฒนาเน้นคนเป็นศูนย์กลางที่มองเรื่องของการดำรงอยู่อย่างพอเพียง พัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ก้าวทันโลกาภิวัตน์มิใช่ถูกครอบงำ หรือการพัฒนาที่เน้นความยั่งยืนเพื่อให้ทรัพยากรทุกบริบทดำรงอยู่จนถึงอนาคตชั่วลูกชั่วหลาน

            จะเห็นได้ว่าแนวคิดการพัฒนาที่เน้นเศรษฐกิจนั้นอาจจะทำให้ประเทศไทยมีรายได้ประชาชาติโดยรวมค่อนข้างสูงขึ้น การพัฒนาความต้องการขั้นพื้นฐานในภาพรวมดูดีขึ้นเป็นไปตามโครงการที่กำหนดไว้ แต่เมื่อลงลึกในรายละเอียดจะพบว่าชุมชนในชนบทกำลังล่มสลาย วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามกลืนหายไปกับกาลเวลา แรงงานอพยพเข้าสู่เมืองเพราะไม่มีทรัพยากรเหลือพอที่จะใช้ประโยชน์ได้อีก ที่สำคัญจิตวิญญาณของคนเหล่านั้นจะถูกโลกแห่งอุตสาหกรรมกลืนกินอย่างช้าๆ และตายเหลือแต่ซากในที่สุด

            ปัจจุบันแนวทางการพัฒนาที่เน้นเศรษฐกิจตกยุคและล้าสมัยไปแล้ว ฉะนั้น การพัฒนาที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง เช่น การพัฒนาที่ยั่งยืนหรือแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงนั้นสามารถทำให้การพัฒนาคน สังคมเดินไปคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างลงตัว  ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแนวทางใดต้องเป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนย่อมดีที่สุด

สุจารี  ไชยบุญ 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: