ในวันที่ฉันหนาว
ภูเก็ตโพสต์ ฉบับวันที่ 1 – 15 พฤษภาคม 2554
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่มรสุมแวะมาเยือนพร้อมทั้งลมและฝน ภาคใต้ทุกจังหวัดชุ่มฉ่ำไปด้วยฝน แถมด้วยอุณหภูมิที่ลดต่ำลงกว่าปกติ ภูเก็ตจึงเปียกชุ่มและเย็นฉ่ำ 2 ฤดูในวันเดียวกัน
ในวันที่ฝนตกพายุเข้าฉันอาศัยชายคาร้านค้าริมทางเป็นที่หลบฝน เวลาผ่านไปเนิ่นนานไม่มีทีท่าว่าฝนจะขาดสาย สายตาฉันเหมอมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย เจอแต่ภูเขา...ภูเขาที่มีแต่ป่าคอนกรีต ต้นไม้ถูกแทนที่ด้วยบ้าน อาคารที่มีความสูงไม่มากนัก ถนนคอนกรีตสลับกับดินลูกรังบางช่วง
ภาพภูเขาที่สมบูรณ์เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เป็นป่าต้นน้ำของชุมชน ทั้งยังเป็นป่าสงวนแห่งชาติกำลังถูกบุกรุก ตัดโค่นด้วยการอ้างสิทธิครอบครองที่ดิน ภายหลังจากต้นไม้ถูกทำลายมากมายได้ทิ้งร่องรอยไว้เป็นหลักฐาน...ภาพเหล่านั้นยังแจ่มชัดในความทรงจำ ที่จำได้ไม่ลืมก็คือชาวบ้านผู้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนถูกฟ้องร้องตกเป็นจำเลย มากถึง 17 คน คนที่ออกเอกสารสิทธิ์นั้นลอยนวล แล้วปล่อยให้คนในชุมชนออกมาป่าวประกาศ เรียกร้องสิทธิ และปกป้องทรัพยากรของตนเองโดยลำพัง
ชาวมอแกลนจากบ้านทับตะวัน ฝั่งทะเลตะวันตกของพังงา ถูกสึนามิกวาดเอาบ้านเรือนหายไปทั้งหมู่บ้านกว่าจะได้รับการช่วยเหลือใช้เวลาพอสมควร เพราะว่าพวกเขาไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน หลังจากนั้นถูกกระหน่ำซ้ำเติมด้วยการถูกกลุ่มทุนฟ้องร้องขับไล่ที่ เพราะที่ตรงนั้น...ตรงที่ชาวมอแกลนอาศัยตั้งบ้านเรือนอยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิมสวยงาม เหมาะสำหรับพัฒนาเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว คนที่ออกเอกสารสิทธิ์นั้นลอยนวล แล้วปล่อยให้คนในชุมชนออกมาป่าวประกาศ เรียกร้องสิทธิ และปกป้องทรัพยากรของตนเองโดยลำพัง
ป่าชายเลนที่บ้านกู้กู บางคู จ.ภูเก็ต หรือที่บ้านในไร่ จ.พังงาถูกกระทำให้เป็นป่าชายเลนเสื่อมโทรมหรือบุกรุก ทำลายมันเสียเพื่อจะได้บอกใครๆ ว่า “ที่นี่ไม่ใช่ป่าชายเลน” แล้วนำไปออกเอกสารสิทธิ์สามารถครอบครองได้โดยชอบธรรม แล้วปล่อยให้คนในชุมชนออกมาป่าวประกาศ เรียกร้องสิทธิ และปกป้องทรัพยากรของตนเองโดยลำพัง
ฝนตกนานแค่ไหนแล้วฉันไม่แน่ใจ ฉันกอดอกเพื่อขับไล่ความเย็นของร่างกาย เหลือแต่ความเหน็บหนาวที่แทรกตัวอยู่ในทุกอณูของหัวใจ
ฉันเหน็บหนาวอย่างโดดเดี่ยว ถูกละเมิดสิทธิ ถูกรังแกและข่มเหง... เพียงเพราะฉันคือ...ประชาชน ต้องอดทนได้ทุกอย่าง แม้ปัญหามันคับคั่งประเดประดังอยู่ในใจ
ฉันคือประชาชนต้องห้อยโหนทุกวันวี่
ฉันคือประชาชนผู้ดิ้นรนทุกเช้าค่ำ เหงื่อไคลมันไหลฉ่ำหน้าก็ดำตัวก็เหนียว
สุจารี ไชยบุญ
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน |