homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 
 

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

21  กุมภาพันธ์  2550

เรื่อง    โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือบ้านย่าหมี  ต.เกาะยาวใหญ่  และโครงการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดพังงาของบริษัทเอกชน

กราบเรียน     ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

            ข้าพเจ้าขอตั้งกระทู้ถาม  นายกรัฐมนตรี  ดังต่อไปนี้ สืบเนื่องจากมีบริษัทเอกชน  ได้ยื่นขออนุญาตต่อหน่วยงานของรัฐ  เพื่อดำเนินการตามโครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือและโครงการที่เกี่ยวข้องบริเวณอ่าวคลองสน  อำเภอเกาะยาว  จังหวัดพังงา  โดยจะทำการขุดลอกทรายเพื่อการเดินเรือ  ก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือคอนกรีตเสริมเหล็ก  วางทุ่นลอยโป๊ะเทียบเรือ  (  พอนทูน  )  และก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นแบบหินทิ้ง  ซึ่งหน่วยงานของรัฐก็ได้ออกใบอนุญาตให้แก่บริษัทเอกชนนั้น  ทั้งที่เป็นการขัดกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เรื่อง  กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม  ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติจังหวัดกระบี่  จังหวัดตรัง  จังหวัดพังงา  จังหวัดภูเก็ต  จังหวัดระนอง  และจังหวัดสตูล  พ.ศ  2549  เพราะพื้นที่ที่ได้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นเขตพื้นที่ที่มีแหล่งหญ้าทะเล  ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์หญ้าทะเล  จากการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา  วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่  รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก  เพราะพื้นที่บริเวณอ่าวคลองสนเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งทรัพยากรหญ้าทะเล  แนวปะการัง  และสัตว์น้ำที่ค่อนข้างสมบูรณ์  ที่สำคัญยังเป็นพื้นที่ประกอบอาชีพประมงของประชาชนในพื้นที่ด้วย  การออกใบอนุญาตสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ  อันได้แก่  สะพานท่าเทียบเรือ  พอนทูน  -  ที่จอดเรือ  ขุดลอกทรายและเขื่อนกันคลื่นแบบหินทิ้ง  เป็นการเอาสิทธิของสาธารณะและชุมชนไปเป็นสิทธิของเอกชนรายเดียว  ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อเรียกร้องสิทธิ ของประชาชนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ  และกรมสอบสวนคดีพิเศษ  กระทรวงยุติธรรม  เพื่อดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่มีลักษณะไม่ชอบด้วยกฎหมายในพื้นที่บริเวณอ่าวคลองสน  อำเภอเกาะยาว  จังหวัดพังงาด้วย จึงเรียนถามว่า

  1. รัฐบาลจะมีการทบทวนการอนุญาตอันได้แก่ใบอนุญาต  สิ่งล่วงล้ำลำน้ำทั้ง  4  ฉบับ  (  สะพานท่าเทียบเรือ  พอนทูน  -  ที่จอดเรือ  ขุดลอกทรายและเขื่อนกันคลื่นแบบหินทิ้ง  )ให้บริษัทเอกชนดำเนินการตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและโครงการที่เกี่ยวข้องดังกล่าว  รวมทั้งโครงการที่มีลักษณะทำนองเดียวกันในที่อื่นๆ รอบอ่าวพังงา  เช่น  ที่แหลมยามู  ต.ป่าคลอก  และอ่าวฉลอง  จ.ภูเก็ต  โดยให้มีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ  ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอย่างละเอียด  และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือไม่อย่างไร

ประเด็นเพิ่มเติม  เนื่องจากการอนุญาตให้บริษัทเอกชน โดยคณะทำงานพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ  จ.พังงา  ซึ่งเป็นกลไกหลักของจ.พังงาหรือภูเก็ตและกระบี่  ขาดประสบการณ์และความรอบคอบ ส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิสาธารณะ และชุมชนตลอดจนวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านรอบอ่าวพังงา และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จ.พังงา  ได้ดำเนินการจัดประชุมคณะทำงานพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ  จ.พังงา  โดยมีผู้ว่าราชการจ.พังงา  นายวินัย  บัวประดิษฐ์  เป็นประธานร่วมกับคณะทำงานโดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ  เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเบื้องต้นได้ดำเนินการระงับการดำเนินโครงการไว้ชั่วคราว  (  ตามข้อตกลงร่วมกับแกนนำชุมชนเมื่อวันที่  8  มกราคม  2550  )  ซึ่งขณะนี้เป็นเวลากว่า  40  วัน  ชาวบ้านชุมชนย่าหมียังคงปักหลักเฝ้าระวังชายหาดบริเวณอ่าวคลองสนอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้จ.พังงาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการยกเลิกใบอนุญาต  4  ฉบับ  แต่ทางคณะทำงานชุดดังกล่าวกลับซื้อเวลาและไม่แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด  ตรงประเด็นกับความต้องการของชุมชนและสาธารณะ  ข้าพเจ้าจึงขอให้ทางรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน

  1. รัฐบาลมีนโยบายจะตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่เกาะยาว  จังหวัดพังงา  รวมทั้งในพื้นที่เกาะ  และชายฝั่งทะเลอื่นๆ  เพื่อไม่ให้ที่ดินสาธารณะต้องตกเป็นของนายทุนและชาวต่างชาติอันเป็นการละเมิดสิทธิของชุมชนท้องถิ่นหรือไม่  อย่างไร

ประเด็นเพิ่มเติม       กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการตรวจสอบปัญหาที่ดินใน     อ.เกาะยาวที่ผ่านมาทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง  สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่  จึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง  และดำเนินการการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาและจัดการกับปัญหา กรณีการครอบครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ   ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก

  1. รัฐบาลมีแนวทางที่จะขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เรื่อง  กำหนดพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม  ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับธรณีพิบัติ  จังหวัดกระบี่  จังหวัดตรัง  จังหวัดพังงา  จังหวัดภูเก็ต  จังหวัดระนอง  และจังหวัดสตูล  พ.ศ. 2549  หรือไม่  อย่างไร

            ประเด็นเพิ่มเติม  การออกใบอนุญาต  4  ฉบับ  (  สะพานท่าเทียบเรือ  พอนทูน  -  ที่จอดเรือ  ขุดลอกทรายและเขื่อนกันคลื่นแบบหินทิ้ง  )  ผิดกฎกระทรวงตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ชี้ให้เห็นว่าคณะทำงานพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ  จ.พังงา  ละเลยและขาดความสนใจหรือขาดการบูรณาการข้อห้ามตามกฎกระทรวง  ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวในการทำลายแหล่งทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  อีกทั้งการกัดเซาะชายฝั่ง  ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องรีบดำเนินการแก้ไข  นอกจากนี้การขยายเวลาประกาศพื้นที่คุ้มครองจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งตลอดจน จะต้องมีมาตรการส่งเสริมด้านการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วมให้ชัดเจนและต่อเนื่องอีกด้วย
ขอให้ตอบในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ขอแสดงความนับถือ
(  นางเตือนใจ  ดีเทศน์  )
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: