การตอบกระืู้ทูู้ืื้ถามของนางเตือนใจ ดีเทศน์ ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 14.35 น.
ก่อนที่จะเรียนถามขออ่านบทบันทึกของชาวบ้านย่าหมีซึ่งได้เขียนบันทึกไว้ในเรื่องราวการอนุรักษ์ของชาวบ้านย่าหมีดังนี้
อ่าวคลองสนเป็นแหล่งหญ้าทะเลประมาณ 2,000 ไร่ ในหญ้าทะเล มีปลิงดำ ปลิงขาว แมงดา เห็ดลม ลูกกุ้งมังกร กุ้งเคย ปลากระเบน ปลาฉลาม ปลาโลมา เต่าทะเล ปลาพยูนและนก ชาวบ้านหากินกันอย่างพอเพียงไม่ต้องพึ่งพาจากแหล่งทรัพยากรที่อื่น ชาวบ้านย่าหมีส่วนใหญ่มีอาชีพประมง ทำนา ทำสวน และอาชีพพื้นบ้านต่างๆ อยู่กันมา ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนมาถึงวันนี้ก็ไม่เคยมีใครมาทำให้ชาวบ้านลำบากหรือถูกขับไล่ไป อ่าวคลองสนแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำมาหากินเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัว ทั้งยังมีทรัพยากรจากป่าชายเลน ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นอาหาร และเป็นสมนุไพรได้หลายชนิด รวมทั้งมีลิงหางยาวเข้ามาอยู่ด้วยเป็นฝูงๆ เมื่อน้ำแห้งลิงหางยาวก็ออกมาหากินยังป่าชายเลน ถ้าหากเราทำลายสิ่งแวดล้อม เหล่านี้ก็เท่ากับเราทำลายขับไล่มนุษย์ และสัตว์ในหมู่บ้านนี้ ซึ่งชาวบ้านอยู่มาหลายชั่วโครต ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ สิ่งที่จะเป็นปัญหากับชาวบ้านก็จะมาจากโครงการพัฒนา 4 โครงการนี้ ชาวบ้านย่าหมีได้รักษาป่าชายเลนถึงเกือบ 3 พันไร่ รักษาหญ้าทะเล รักษาแนวปะการัง ด้วยแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักศาสนาอิสลาม ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียวซึ่งเป็นรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมเมื่อพ.ศ. 2545 เด็กๆนักเรียนจะนำลอบดักปูดำ มีรายได้ไปโรงเรียน โดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่
เมื่อต้นเดือนมค. 2550 บริษัทเอกชนแห่งนี้ได้นำเครื่องมือจะขึ้นมาที่อ่าวคลองสนเพื่อที่จะดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว ชาวบ้านเกือบ 300 คน จึงยกขบวนไปที่ศาลากลางจังหวัดพังงาเพื่อคัดค้านโครงการและยืนยันที่อนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเล แหล่งปะการัง และป่าชายเลน รวมทั้งป่าบนภูเขาด้วย ซึ่งสื่อมวลชนต่างๆได้นำเสนอข่าวต่อเนื่องเสมอมา
เหตุที่ทำให้มีการขอสร้างสิ่งก่อสร้างล่วงล้ำไปในทะเลนั้น ที่มาคือมติครมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 ซึ่งอนุมัติให้อ่าวพังงาเป็นเขตพัฒนาเพื่อการท่องเที่ยวพิเศษหรือ อพท. ตามกลุ่มยุทธศาสตร์ 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ เป็นต้นตอของโครงการก่อสร้างปัจจัยความสะดวก เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมความงามของธรรมชาติ โดยละเลยวิถีชีวิตของชุมชนที่อยู่มาอย่างสงบสุข
ดิฉันจึงของเรียนถามรัฐมนตรีดังนี้
- รัฐบาลจะมีการทบทวนการออกใบอนุญาตสิ่งล่วงล้ำลำน้ำทั้ง 4 ฉบับ คือ สะพานท่าเทียบเรือ เขื่อนกันคลื่นในทะเลแบบหินทิ้ง ขุดลอกทราย และพอนทูน-จอดเรือ ให้บริษัทเอกชนดำเนินการตามโครงการก่อสร้างเหล่านี้ รวมทั้งโครงการที่มีลักษณะอื่นๆในบริเวณรอบอ่าวพังงา เช่นที่แหลมยามู ต.ป่าคลอก และอ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต โดยให้มีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิต ของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอย่างละเอียด และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือไม่
ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจังหวัดพังงาได้จัดการประชุมคณะทำงานพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ โดยผู้ว่าราชากรจังหวัดพังงาเป็นประธาน ได้มีมติเป็นเบื้องต้นให้ระงับโครงการนี้ไว้ชั่วคราว ดิฉันจึงขอเรียนถามคำถามที่ 1 ค่ะ
รัฐบาล: รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม เรียนประธานสภา และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เคารพ ในคำถาม การออกใบอนุญาตนี้ ทางกระทรวคมนาคมได้มาตรวจสอบแล้วปรากฎข้อเท็จจริงว่า การอนุญาตขัดกับกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการกำหนดพื้นที่ และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่ ได้รับธรณีพิบัติจังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล พ.ศ. 2549 ทางกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จึงได้มีคำสั่งให้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว และดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว ส่วนในเรื่องการพิจารณาโครงการในลักษณะนี้ ต่อไปก็คงมีการกำหนดกระทรวงไว้แล้วตามกฎกระทรวงฉบับที่ 63 พ.ศ. 2537 การอนุญาตต้องคำนึงถึงหลักผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้กำหนดไว้ว่า การก่อสร้างต้องไม่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ หรือทางน้ำเปลี่ยนแปลงหรือก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ทางเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการถอนใบอนุญาตแล้ว ส่วนในเรื่องสิ่งแวดล้อมทางรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมจะได้ให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
นายเกษม สนิทวงศ์ ณ. อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: ท่านประธานสภา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการที่จะทำสิ่งใด ในบริเวณเกาะยาว เราได้มีประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดเขตพื้นที่ที่และมาตรการคุ้มครองพื้นที่ได้รับภัยพิบัติ ซึ่งเกิดจากสาเหตุที่ว่า มีสึนามิมาเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว สืบเนื่อง จากการดำเนินการประกาศดังกล่าว ได้มีการครอบคลุมกิจกรรมที่เกาะยาวนี้ด้วย ได้มีการครอบคลุมเกี่ยวกับการขุดลอก พิจารณาการฟื้นฟูและอนุรักษ์หญ้าทะเลที่อยู่ในบริเวณนั้นที่ได้มีการสำรวจกันแล้ว ออกมาชัดเจนว่า พื้นที่จะทำท่าเทียบเรือ ปรากฎว่ามีทรัพยากรทางทะเลที่มีคุณค่าต่อการดำรงชีวิต เพราะฉะนั้นในการประกาศเขตคุ้มครองเนื่องจากภัยพิบัติ ได้ครอบคลุมถึงพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ประธานสภา: สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีสิทธิ์ตั้งกระทู้ได้เพิ่มเติม
นางเตือนใจ ดีเทศน์ : สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดิฉันขอคำยืนยันจากรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม ว่าเป็นการระงับโครงการอย่างถาวรหรือไม่ มีอีก 2 คำถามและอีกหนึ่งข้อเสนอแนะ
- รัฐบาลมีนโยบายจะตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่เกาะยาว จังหวัดพังงา รวมทั้งในพื้นที่เกาะและชายฝั่งทะเลอื่นๆ เพื่อไม่ให้ที่ดินสาธารณะต้องตกเป็นของนายทุนและชาวต่างชาติอันเป็น การละเมิดสิทธิของชุมชนท้องถิ่นหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านย่าหมีได้ดำเนินการยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินการตรวจสอบปัญหาที่ดินในเกาะยาว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจะมีนโยบาย ทำให้การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่เกาะยาว จังหวัดพังงา รวมทั้งในพื้นที่เกาะและชายฝั่งทะเลอื่นๆ เพื่อไม่ให้ที่ดินสาธารณะตกเป็นของนายทุน และชาวต่างชาติ อันเป็นการละเมิดสิทธิของชุมชนหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ ชาวบ้านย่าหมีได้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการไปอย่างมาแล้วอย่างต่อเนื่อง จึงขอเรียนถามรัฐบาลในข้อที่ 2 ว่า รัฐบาลจะมีนโยบายทำให้การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ในที่ดินในพื้นที่จ.พังงา รวมทั้งในพื้นที่เกาะและชายฝั่งทะเลอื่นๆ ได้ดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงไปตรงมา และจัดการปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบหรือไม่
ดิฉันได้เดินทางไปดูพบว่าป่าบนภูเขาถัดจากพื้นที่หาดทรายขึ้นไป ขณะนี้กำลังถูกถาง เพื่อนายทุนบริษัทนี้เตรีมการที่แบ่งพื้นที่เป็นแปลงเล็ก แปลงน้อยเพื่อที่จทำรีสอร์ทขาย เนื่องจากถ้าโครงการทั้ง 4 โครงการสำเร็จจะเป็นโครงการสำเร็จรูป คือซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน ซื้อรีสอร์ทได้และจะมีที่จอดเรือส่วนตัว ราคาลำละ 70-80 ล้านบาท ซึ่งในข้อนี้ประชาชนฝากถามว่ารัฐบาลหวั่นเกรงหรือไม่ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาอาจจะเป็นพวกที่ทำผิดกฎหมาย แล้วเข้ามาฟอกเงินในประเทศไทยและยังมาอ้างสิทธิ์ในที่ดิน ที่เคยเป็นของประชาชนด้วย
ตอบกระทู้ถาม
นายบัญญัติ จันเสนะ:
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ได้รับมอบหมายจากพณฯนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจงตอบกระทู้ถาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ในเรื่องนี้เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่ยึดถือแนวปฏิบัติมาเป็นการต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการควบคู่ไปกับ 2 ส่วนด้วยกัน คือ การเร่งรัดการออกอกสิทธิ์ให้ประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์อยู่ในที่ดินด้วย สำหรับข้อมูลโดยทั่วไป ที่ดินที่สามารถออกเอกสารสิทธ์ได้อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านไร่ ขณะนี้ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ไปแล้ว ประมาณ 80% ของที่ดินทั้งหมด เป็นโฉนดที่ดิน ประมาณ 22 ล้านฉบับ เป็น นส 3 ก ประมาณ 1 ล้านกว่าฉบับ เป็นใบจอง และ สก 1 อีก 1 ล้านกว่าฉบับ
ในส่วนของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ ต.เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา นั้น มีข้อมูลทั่วไปในพื้นที่ ต.เกาะยาวใหญ่ มีหนังสือสำคัญที่ดินรวม 5,816 ฉบับ แยกเป็น สก 1 จำนวน 214 ฉบับ , ใบจอง จำนวน 90 ฉบับ , นส 3 จำนวน 692 ฉบับ ,นส3 ก จำนวน 3, 499 ฉบับ โฉนดที่ดิน 1,321 ฉบับ
ต่อกรณีที่มีการเสนอข่าวการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ จึงได้มีการตรวจสอบ ในข้อมูล ผลการตรวจสอบของกรมที่ดิน ปรากฎผล พบว่ามีการออกนส 3 ก โดยมิชอบ จำนวน 51 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,170 ไร่ โดยนำ สก. 1 ของที่ดินแปลงอื่น มาสวมเป็นหลักฐานในบริเวณพื้นที่ป่าและภูเขา ซึ่งยังไม่มีการทำประโยชน์ หรือมีการรังวัดขยายเขต นส 3 ก เดิมไปทับที่ดินของผู้อื่น หรือพื้นที่ป่า ซึ่งจังหวัดพังงาได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมที่ดินเพื่อพิจารณาเพิกถอนไปแล้ว 23 แปลง โดยกรมที่ดินได้สั่งเพิกถอนไปแล้ว 1 แปลง ส่วนอีก 22 แปลงนั้น ข้อเท็จจริงที่ทางจังหวัดแจ้งยังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะดำเนินการเพิกถอนได้ จึงดำเนินการส่งเรื่องให้ทางจังหวัดสอบสวนเพิ่มเติม ที่เหลืออีก 28 แปลงอยู่ระหว่างการตรวจสอบการดำเนินการของจังหวัด ซึ่งในส่วนนี้ทางกรมที่ดินจะได้ดำเนินการเร่งรัด ในการตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อมูล ข้อสรุป ที่เป็นข้อเท็จจริง โดยด่วนต่อไป
ส่วนมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบนั้น กรมที่ดินกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดมาตรการที่สำคัญใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ
- มาตรการการด้านการบริหารนั้นได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันให้มีการตรวจสอบความถูกต้องให้ตรงกับแปลงที่ดินที่ขอออกเอกสารสิทธิ์ กรณีที่มีข้อสงสัยว่าแปลงที่ดินจะตรงกับที่ดินที่ได้ขอออกหรือไม่ให้มีการตรวจสอบหลักฐานที่เหลือยู่ทั้งหมด ในกรณีที่ไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการนำออกเอกสารสิทธิ์โยชอบหรือไม่ อย่างไร ก็จะมีขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และจะจัดให้มีการออกระเบียบสำนักรัฐมนตรี ว่าด้วยมาตรฐานเกี่ยวกับแผนที่และรูปแผนที่ รูปแปลงที่ดิน เพื่อที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดการออกเอกสารสิทธิ์ เพื่อที่จะได้ไม่มีการทับซ้อนกันในแปลงที่ดิน ของหน่วยงานอื่นด้วย ใช้มาตรฐานของแผนที่ทหารในมาตราส่วน 1: 4,000 ของทุกหน่วยงานที่เข้ามาดูแลเรื่องที่ดินทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันทางกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอมาตรการทางกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การออกเอกสารสิทธิ์โดยชอบ โดยทางกรมที่ดินได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อนำไปสู่การยกเลิก สค. 1 ทั้งหมด ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว คงจะได้นำไปสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เนื่องจากขณะนี้ เอกสาร สค 1 ยังมีหลงเหลือยู่ประมาณ 800,000 กว่าแปลงเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ เนื่องจาก สก1 เป็นหลักฐานในการทำประโยชน์ที่ดิน ไม่มีขอบเขตชัดเจน บางทีมีปัญหาเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อที่จะเร่งรัดให้การออกเอกสารสิทธิ์นี้หมดไป ทางกรมที่ดินจึงได้หยิบยกประเด็นนี้เพื่อนำเสนอเป็นกฎหมายที่จะเร่งรัดให้ผู้ครอบครองเอกสารสค 1 ได้เร่งรัดการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน นำไปสู่การออกโฉนดที่ดินให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด ผู้ที่ครอบครองเอกสารสค 1 ไม่นำเอกสารสค 1 มาออกเอกสารสิทธิ์ ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีผลทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดการตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากยิ่งขึ้น
- การเสนอแก้กฎหมายเพื่อที่จะมอบอำนาจการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกไปแล้วโดยมิชอบไปยังผู้ตรวจราชการกรม หรือเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีตำแหน่งระดับ 9 ขึ้นไป ทำหน้าที่ส่วนนี้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อนำไปสู่การเร่งรัด การตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ซึ่งนำไปสู่การพิจารณาเพิกถอนโดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันนี้โดยกฎหมายแล้ว ได้มอบอำนาจให้แก่อธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งในทางปฏิบัติได้มอบให้รอบอธิบดีเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าปัญหาของการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบนั้น มีปัญหาที่มากพอสมควร ปริมาณงานที่จะเข้ามาดูแลตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การหาข้อยุติ ในการเพิกถอนนั้นก็มีมาก จึงได้เสนอแก้กฎหมายนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น แสดงให้เห็นว่าทางรัฐบาล โดยความรับผิดชอบของกรมที่ดินเองมองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะถือว่าที่ดินที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่เป็นสมบัติของแผ่นดิน คงไม่สามารถให้ผู้ใดถือสิทธิ์ครอบครองเป็นของผู้หนึ่งผู้ใดได้ ควรที่จะรักษาผลประโยชน์ส่วนนี้ไว้ให้เป็นสมบัติของแผ่นดินสาธารณของแผ่นดิน ซึ่งกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยก็ได้ดูแลเรื่องนี้ โดยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่ฝ่าฝืนต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ข้าราชการที่ถูกลงโทษทางวินัยถึงขั้นไล่ออกไปแล้วถึง 15 ราย และที่กำลังอยู่ขั้นตอนพิจารณาทางวินัยอยู่ อีก 40 เรื่อง
- รัฐบาลมีแนวทางที่จะขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ที่ได้รับธรณีพิบัติ จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล พ.ศ. 2549 หรือไม่ อย่างไร
ตอบกระทู้ถาม
นายเกษม สนิทวงศ์ ณ. อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: ต่อคำถามของ สมาชิกสภาที่ว่า จะยกเลิกโครงการจะยกเลิกเป็นการถาวรหรือไม่ ขอตอบว่าจะยกเลิกเป็นการถาวร เพราะจะได้ไม่ขัดกับประกาศของกระทรวง
สำหรับคำถามในข้อที่ 3 นั้น ข้อชี้แจงว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะขยายการบังคับใช้ประกาศกระทรวงหรือไม่นั้น สำหรับประกาศกระทรวงจะหมดอายุลงในวันที่ 12 เมษายน 2550 นี้ แต่ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ในการที่จะกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองในจังหวัดพังงาและกระบี่ ในกรณีของเกาะยาว ก็จะเป็นประกาศของกระทรวงที่เกี่ยวกับจังหวัดพังงา ซึ่งประกาศดังกล่าวจะครอบคลุมปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน การขุดลอกร่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นหญ้าทะเล ซึ่งประกาศกระทรวงนี้ได้ผ่านครม เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คาดว่าใน อาทิตย์หน้าคาดจะเตรียมปรกาศเรื่องนี้ได้ พื้นที่ที่อยู่ในประกาศนี้ ทางกระทรงทรัพยากรฯจะต้องดำเนินการพิจารณาฟื้นฟู ในทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะป่าชายเลนเรามีแผนที่ชัดเจนในการฟื้นฟู ป่าชายเลนที่ถูกทำลายไป ทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะเน้นแหล่งท่องเที่ยวในแถบทะเลฝั่งอันดามัน
ข้อเสนอแนะ
นางเตือนใจ ดีเทศน์ : สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้อมูลในเรื่องของแหล่งหญ้าทะเล แนวปะการัง และป่าชายเลน ซึ่งมีน้อยลงไปทุกที ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีแนวนโยบายที่จะอนุรักษ์รักษาทรัพยากรในเรื่องต่อไปนี้อย่างไรบ้าง
- แนวปะการังซึ่งเป็นระบบนิเวศน์ซึ่งมีความสลับซับซ้อน มีองค์ประกอบหลากหลายของพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์นานาชนิด เป็นแหล่งที่มีความสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ รวมทั้งยังมีความสวยงาม มีคุณค่า จึงมีการใช้ประโยชน์จากแนวประการังอย่างกว้างขวาง ทั้งในการประมงและการท่องเที่ยว ขณะนี้พื้นที่แนวประการังในประเทศไทยมีเพียง 95,625 ไร่หรือ 153 ตารางกิโลเมตร อ่าวคลองสนมีแนวปะการัง ยาวถึง 7 กิโลเมตร เป็นหนึ่งใน 153 ตารางกิโลเมตรที่มีอยู่ในประเทศไทย
- แหล่งหญ้าทะเล ซึ่งจะเป็นระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเล เป็นอันดับสองรองจากระบบนิเวศน์น้ำกร่อย และมากกว่าระบบนิเวศน์ป่าชายเลน แหล่งหญ้าทะเล เป็นแหล่งวางไข่เลี้ยงตัววัยอ่อน แหล่งหากินและหลบภัยของสัตว์เศรษฐกิจทั้งหลาย รวมทั้งเต่าทะเล และเป็นแหล่งหากินของและพยูน นอกจากนี้แหล่งหญ้าทะเลยังมีประโยชน์ในการลดความแรงของกระแสคลื่น ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล และป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ขณะนี้ประเทศไทยมีแหล่งหญ้าทะเลอยู่พียง 93 พื้นที่ เป็นเนื้อที่เพียง 104 ตารางกิโลเมตร หรือ 65,000 ไร่ ซึ่งหญ้าทะเลที่อ่าวคลอสนมีถึง 3 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 2,000 ไร่ รวมถึงชาวบ้านย่าหมียังได้ร่วมกันรักษาป่าชายเลนไว้ถึง 3,000 ไร่ จากจำนวนป่าชายเลนทั้งหมด 1.5 ล้านไร่ จากข้อมูล ปี 2545 ไม่แน่ใจว่าขณะนี้ป่าชายเลนมีเหลืออยู่เท่าไร
กระทู้ของดิฉันจึงต้องการที่จะเห็นรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนที่จะกระตุ้น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนที่จะรักษามรดกทางธรรมชาติของประเทศและของโลกทั้งแหล่งหญ้าทะเล แนวประการัง และป่าชายเลน และวิถีชีวิตที่สงบสุขตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง |