พิษมาบตาพุดนายกฯไม่กลัวกินกุ้งต้มโชว์!

ไทยโพสต์              4 พฤศจิกายน 2552

"มาร์ค"  โชว์มาบตาพุดไร้มลพิษ  ลงทุนกินกุ้งต้มไป  1  ตัว  เอกชนยื่นโพลล์อ้างชาวระยอง  99%  อยู่ข้างรัฐบาล  นายกฯ  สั่งตั้งกรรมการดูแล  76  โครงการเจ้าปัญหา

     มีความพยายามสื่อให้เห็นว่าสภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไม่ได้มีปัญหารุนแรงอย่างที่ตกเป็นข่าว  กลุ่มระยองสมานฉันท์  โดยนายสุทธา  เหมสถล  นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม  อ.บ้านฉาง-มาบตาพุด  นำสมาชิกสมาคมฯ  ไปยังทำเนียบรัฐบาลพร้อมหาบใส่อาหารทะเล  เช่น  กุ้งต้ม  หอยแมลงภู่ลวก  ปูม้า  และรายชื่อผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด  จำนวน  1  หมื่นชุด  ซึ่งเห็นสมควรให้รัฐบาลดำเนินการไปตามขั้นตอนและอำนาจหน้าที่โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่จริงๆ

     พร้อมเสนอให้การนิคมอุตสาหกรรมรีบดำเนินการตั้งไตรภาคี  คือ   มีประชาชนในพื้นที่  ภาครัฐ   และผู้ประกอบการ  โดยให้รัฐบาลดำเนินการจัดเก็บภาษีมลพิษอย่างจริงจัง  และให้จัดตั้งพื้นที่  6  ตำบล  ประกอบด้วย  มาบตาพุด   บ้านฉาง  ทับมา  เนินพระ  ห้วยโป่ง  มาบข่า  เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ  ซึ่งนายสุทธาได้เชิญให้นายกฯ  เดินทางไปในพื้นที่มาบตาพุดเพื่อดูพื้นที่จริง  ซึ่งนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า  ขอดูเวลา  ถ้ามีโอกาสจะเดินทางไป

     บรรยากาศที่น่าสนใจคือ   กลุ่มระยองฯ  ได้เชิญให้นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี   รับประทานอาหารทะเลที่เตรียมมา  เพื่อเป็นการยืนยันว่าสัตว์ทะเลในแถบมาบตาพุดยังไม่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ   โดยนายอภิสิทธิ์รับประทานกุ้งต้มไป   1  ตัว  ส่วนนายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย  รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ที่เดินมาพูดคุยกับกลุ่มฯ  ก็ได้รับประทานกุ้งต้มไป  1  ตัวเช่นกัน

     สำหรับแบบสอบถามของกลุ่มนี้  ระบุว่า  ประชาชนมากกว่าร้อยละ  99  เห็นสมควรให้รัฐบาลหาข้อยุติในปัญหาโดยหาจุดสมดุลระหว่างประชาชน   ภาครัฐ  และภาคอุตสาหกรรม  เนื่องจากการระงับโครงการกว่า   76  โครงการตามคำสั่งศาลนั้น  ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน  โดยมากกว่าร้อยละ  99  มองว่า  25  ปีที่มีการดำเนินอุตสาหกรรมมา  หากมีมาตรการที่ชัดเจนชุมชนกับอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกันได้

     รายงานข่าวจากที่ประชุม  ครม.วันเดียวกันนี้  ระบุว่า  นายอภิสิทธิ์ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกรณี  76  โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด  จ.ระยอง  โดยนายสุวิทย์  คุณกิตติ  รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ได้ชี้แจงว่า  เมื่อวันที่  2  ตุลาคม  ศาลยังอยู่ในขั้นตอนการแถลง  และยังไม่มีการชี้มูลแต่อย่างใด 

     จากนั้นนายกฯ  กล่าวว่า  จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อดูแล  76  โครงการที่มีปัญหา  เพื่อหาทางออกและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยที่ไม่ว่าทางออก  มติหรือคำตัดสินของศาลออกมาเช่นไร  ตนก็จะตั้งคณะกรรมการชุดนี้เพื่อดูแล  76  โครงการ

     นายสรยุทธ  เพ็ชรตระกูล  ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ให้สัมภาษณ์กรณีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจะยื่นฟ้องเพิ่มเติมอีก  181  โครงการที่ได้รับรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม  (อีไอเอ)  หลังรัฐธรรมนูญปี  2550 ว่า  เรื่องนี้ไม่ได้ตื่นเต้นว่าสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนจะฟ้องกี่โครงการ  เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่าจะยื่นฟ้องเพิ่ม  500  โครงการ  ซึ่งเคยเรียนผู้ใหญ่ให้ทราบแล้วว่าในจำนวนนี้มี  200  กว่าโครงการที่เป็นโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์  แสดงว่าไม่ได้มีการตรวจสอบก่อนที่จะยื่นฟ้อง  ถือว่าเป็นการฟ้องแบบลอยๆ   แต่การที่มีคนไม่เห็นด้วยแล้วใช้สิทธิทางศาล  ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร  ดังนั้นสิ่งที่ภาครัฐจำเป็นต้องทำวันนี้คือ  ทำความเข้าใจระหว่างภาครัฐ  ภาคเอกชน  และประชาชนให้เข้าใจตรงกัน

     เขาบอกว่า   วันที่  12  พฤศจิกายนนี้  ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนรอบ  2  เพิ่มเติมอีกครั้ง  โดยเชื่อมั่นว่าเรื่องนี้น่าจะจบภายในสิ้นปีนี้  เพราะถ้าปล่อยไว้นานก็จะยิ่งกระทบมาก  ส่วนคดีหลักก็ไม่เป็นห่วงหากคดีนี้สามารถจบและมีกฎหมายชัดเจนออกมา   แต่ถ้าไม่จบคดีหลักก็น่าห่วงเพราะจะลุกลามหนักขึ้น.