ทุจริตการออกโฉนดที่ดิน สค.1 ว่า ถูกต้องหรือไม่ ใครเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการบ้าง

สำนักข่าวไทย

"เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเยอะ ที่มีการใช้ตำแหน่งหน้าที่สั่งกรมที่ดิน ฉะนั้นต้องสังคายนายกใหญ่ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการรุกที่สาธารณะให้กลายเป็นมาเป็นประโยชน์ส่วนตัวแบบนี้ไม่รู้จักจบ ซึ่งอันตรายต่อระบบการเมืองของประเทศที่ใช้ตำแหน่งมาหาผลประโยชน์" นายสุรชัย กล่าว

นายสุรชัย กล่าวว่า กมธ.ทรัพยกรฯ กำลังตรวจสอบกรณีนำ สค.1 ของที่อื่นมาออกที่บ้านกู้กู อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งหากเปิดเผยชื่อต้องฮือฮาแน่เพราะเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และอดีตนักการเมือง โดยเรื่องนี้มีชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มีเอกชนบุกรุกที่ป่าชายเลนปักป้ายในที่สาธารณะทีชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันว่า เป็นที่ส่วนบุคคล โดยพื้นที่ดังกล่าวมี 2 แปลงติดกันรวม 50 ไร่ แปลงแรกมีการออกโฉนดให้ไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ส่วนอีกแปลงอยู่ระหว่างการขอออกโฉนด ซึ่ง กมธ.ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นที่ป่าชายเลนจริง แต่กรมที่ดินบอกว่า เป็นที่ส่วนบุคคลปลูกต้นจาก กมธ.ก็ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญกรมพัฒนาที่ดินมาช่วยดูเปรียบเทียบ สค.1 กับภาพถ่ายทางอากาศแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า น่าจะเป็นการเอา สค.1ที่อื่นมาสวมสิทธิ์ออกโฉนดที่นี่ ขณะนี้ กมธ.รอเอกสารสำคัญอยู่ชิ้นหนึ่งเพื่อจะชี้ชัดได้ว่า เอาสค.1จากที่อื่นมาสวมสิทธิ์หรือไม่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสรุปได้  

เมื่อถามว่า หากเอาผิดได้ก็จะเอาผิดได้แค่เจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่สาวไม่ถึงเจ้าของตัวจริง นายสุรชัย กล่าวว่า สามารถเอาผิดกับเจ้าของที่ดินได้แน่นอน เพราะมีขั้นตอนการขออกโฉนดที่ต้องมีการให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ที่ดินว่า ถูกต้องและตรงกับพื้นที่ที่ขออกโฉนด อย่างน้อยก็ดำเนินคดีได้ทั้งนอมินี หรือนายหน้าข้อหาแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานมีโทษจำคุกประมาณ 10 ปี และโทษปรับด้วย.