กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ประชุมร่วมกับองค์กรชาวบ้านทำแผนอนุรักษ์ฯ 4 ปี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิ.ย.51 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจัดงานประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่โรงแรมเมอร์ลิน จ.ภูเก็ต
โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานประชุมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบและ มีส่วนร่วมในการให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี
โดยมีนายประวิม วุฒิสินธุ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกล่าวเปิดงาน
ผู้เข้าร่วมการประชุมมาจากเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 120 คน
แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี เริ่มตั้งแต่ ปี 2551 2554 มีประเด็นยุทธศาสตร์หลัก 2 คือ ประการแรก การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ และประการที่สอง การอนุรักษ์พัฒนาระบบศักยภาพและจัดการการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างสมดุล บูรนาการสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายประวิม วุฒิสินธุ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เชิญองค์กรชุมชนมารับฟัง แต่สามารถปรับแผนงาน เพิ่มเติมแผนงานได้ และแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี เน้นที่แผนการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยวทางทะเลก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ แต่จะต้องให้ความรู้กับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เพื่อจะได้เกื้อหนุนกันและกัน
นายวุฒิชัย เจนการ ผู้อำนวยการกองแผนงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่อประเด็นการดูแลและฟื้นฟูป่าชายเลนว่า แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี นี้จะรักษาป่าชายเลน 1.46 ล้านไร่ ให้คงสภาพเดิมไม่ให้มีการบุกรุกหรือสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลนมากไปกว่านี้ สำหรับมาตรการผู้บุกรุกป่าชายเลนนั้น จะดำเนินการตามกฎหมาย
สะมะแอ เจ๊ะมูดอ เลขาธิการสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ กล่าวถึงการรับฟังแผนปฏิบัติราชการ4 ปี นี้ว่า กรมทรัพยากรทางทะเลฯ เป็นกรมใหม่ แต่ก็พอใจในการทำงานของกรมที่ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนด้วย และวันนี้มาฟังแผนงานของกรมทรัพยากรฯ และพยายามเสนอแนวทางการทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชนให้มากที่สุด เพราะพวกเราเป็นคนที่มีจำนวนมากและได้รับผลกระทบก่อน |