homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 

ที่ดินสมุยเมินแจ้งความ ส.ค.1หาย ยันไม่พบ"คนผิด" ปริศนาส.ค.1 "จำลอง โพธิ์เพชร"ถูกแยกก่อนขาย

จากหนังสือพิมพ์ มติชนออนไลน์ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 

ที่ดินสมุยอ้างเหตุ เมินข้อเสนอ กมธ.กฎหมายให้แจ้งความ ส.ค.1 หาย ตามมาตรา 158 เนื่องจากไม่พบ"คนผิด"จึงไม่สามารถแจ้งความได้ จับผิดปริศนา ส.ค.1 เลขที่ 95 ที่"จำลอง โพธิ์เพชร" กล่าวอ้างถูกแยกเป็น 6-7 แปลง แท้ที่จริงถูกแปลงเป็น น.ส.3 ก. เลขที่ 3302 ขายให้กับ"แทน เทือกสุบรรณ" เพียงคนเดียว ไม่ได้แบ่งขายให้กับ"นิพนธ์ พร้อมพันธุ์"แต่อย่างใด

นายจำลอง โพธิ์เพชร หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย ตอบข้อซักถามเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม กรณีการแจ้งความเอกสาร ส.ค.1 ที่เป็นต้นขั้วในการออกโฉนดที่ดินของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใน ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หายไปจากสารบบ โดยไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 158 ตามที่คณะกรรมการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แนะนำว่า การจะแจ้งความตามมาตรา 158 นั้นต้องรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดก่อน ซึ่งขณะนี้สำนักงานที่ดินสาขาเกาะสมุย กำลังดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นอยู่และทราบว่าเอกสาร ส.ค.1 ดังกล่าวได้หายออกไปจากสารบบในปี 2544-2548 แต่การตรวจสอบต่อไปนั้น ค่อนข้างยาก เพราะช่วงเวลาดังกล่าวมีเจ้าพนักงานที่ดินหลายคนปฏิบัติหน้าที่อยู่ จึงต้องรอการตรวจสอบในเชิงลึกจากคณะกรรมการที่กรมที่ดินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีทำการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ก่อนที่จะดำเนินการเข้าแจ้งความ ขณะนี้จึงทำได้แค่การเข้าแจ้งความเอกสารหายเท่านั้น

นายจำลองยังตอบข้อซักถามเกี่ยวกับปริศนา ส.ค.1 เลขที่ 95 ของนายจรูญ ศรีแผ้ว ที่ปรากฏว่ามีการนำไปออกเป็น น.ส.3 ก. ให้กับนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในเขต ต.แม่น้ำ และออกโฉนดให้กับบริษัท ชนาพันธุ์ จำกัด ซึ่งมีนายนิพนธ์ถือหุ้นในเขต ต.อ่างทอง ซึ่งในทางปฏิบัติ ส.ค.1 ใบเดียวกัน ไม่สามารถออกข้ามตำบลได้ว่า จากหลักฐานพบว่า ส.ค.1 เลขที่ 95 นั้นในภายหลังมีการนำไปแบ่งเป็น น.ส.3 ก. จำนวน 6-7 แปลง โดย 2 แปลงถูกนำไปขายให้นายแทน และบริษัท ชนาพันธุ์ จำกัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยยืนยันมาตลอดว่าที่ดินของนายแทนและนายนิพนธ์อยู่ติดกัน แต่จากหลักฐานเอกสารของกรมที่ดินที่ถูกต้องปรากฏว่าที่ดินของบุคคลทั้งสองไม่ได้อยู่ติดกัน แยกกันคนละแปลง อยู่คนละตำบล และมีที่ดินคนอื่นคั่นกลางอยู่ จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีการนำ ส.ค.14 จากที่อื่นมาสวมสิทธิออกโฉนดและขายให้นายนิพนธ์ นายจำลองกล่าวว่า ตนหมายความว่าที่ดินที่ออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 95 มีพื้นที่ติดกันเป็นผืนเดียวกัน แต่มีการแบ่งแยกในภายหลัง ซึ่งการเข้าชี้แจงกับ กมธ.การกฎหมาย มี กมธ.ถามหัวหน้ารังวัดที่ดินเกาะสมุย จากเอกสารระวางโฉนดที่ดินว่าที่ดินทั้ง 2 แปลงติดกันหรือไม่ เจ้าหน้าที่รังวัดก็ต้องตอบไปว่าไม่ติดกันตามเอกสารระวางโฉนด เพราะที่ดินทั้ง 2 แปลงไม่อยู่ติดกันจริงๆ เนื่องจากมีที่ดินแปลงอื่นขั้นกลางอยู่

เมื่อถามว่าที่ดินที่คั่นกลางระหว่างที่ดินของนายแทนกับบริษัท ชนาพันธุ์ คือที่ดินของใคร นายจำลองกล่าวว่า พื้นที่ตรงกลางนั้นมีที่ดินแตกออกเป็นหลายแปลง เท่าที่ทราบเป็นของนายแทนกับคนที่นามสกุลฟ้าทวีพร (นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร หรือ "โกกี้"ผู้ก่อตั้ง หจก.เรืองปัญญาฯ) เมื่อถามย้ำว่านายแทนมีที่ดินแปลงอื่นบนเขาแพงนอกจากแปลง 62 ไร่ อีกหรือ นายจำลองกล่าวว่า "นายแทนมีที่ดินเยอะแยะ เป็นพื้นที่ที่ต่อกันแต่แยกคนละโฉนด"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเอกสารของสำนักงานที่ดินสาขาเกาะสมุย ที่ยื่นต่อ กมธ.กฎหมายฯพบว่า เอกสาร ส.ค.1 เลขที่ 95 ตามที่นายจำลองกล่าวอ้าง เดิมเป็นของนายจรูญ ศรีแผ้ว ที่ขายให้กับ หจก.เรืองปัญญาฯ ไปจำนวน 7 ไร่ แต่เมื่อนำไปออก น.ส.3 ก. ปรากฏว่า ได้ น.ส.3 ก. เลขที่ 3302 ได้เนื้อที่ 16 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา เพิ่มขึ้น 9 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา คิดเป็น 142.7 เปอร์เซ็นต์ แต่ต่อมา หจก.เรืองปัญญาฯได้ขายที่ดิน น.ส.3 ก.เลขที่ 3302 ให้กับนายแทนไปพร้อมกับ น.ส.3 ก. อีก 4 แปลงพร้อมๆ กัน คือ 3285,3301,3303 ต.แม่น้ำ และ 1907 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ในราคา 6,615,000 บาท จึงเป็นไปไม่ได้ว่า ส.ค.1 เลขที่ 95 ที่แปลงมาเป็น น.ส.3 ก. เลขที่ 3302 จะถูกแบ่งแยกออกเป็น 6-7 แปลงเพื่อขายให้นายนิพนธ์และคนอื่นๆ ตามที่นายจำลองกล่าวอ้าง เพราะเอกสารจากสำนักงานที่ดินสาขาเกาะสมุยระบุชัดว่า ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 3302 (ส.ค.1 เลขที่ 95) ทั้งหมดให้กับนายแทนเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายนิพนธ์เคยยืนยันว่าโฉนดที่ดินที่ซื้อมาจากนายสามารถ เรืองศรี หรือ "โกเข็ก" มีตั้นขั้วเป็น ส.ค.1 เลขที่ 97 ที่เจ้าพนักงานที่ดินสาขาเกาะสมุยเคยยืนยันกับ กมธ.กฎหมายฯว่าหายไปจากสารบบ

ขณะที่สมหมาย เจริญสุข แกนนำ เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ชายฝั่งทะเล อันดามัน จ.ภูเก็ต-พังงา เข้าพบและยื่นข้อเรียกร้องต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ระหว่างเดินทางไปร่วมสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ที่โรงแรมเมอร์ลิน บีช รีสอร์ท หาดป่าตอง ดังนี้

1.กรณีที่มีอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ครอบครองที่ดินป่าชายเลนบ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน เลขที่ 35691 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ ส.ค.1 เลขที่ 16 หมู่บ้านและตำบลเดียวกัน
2.ขอให้สั่งการไปยังกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาเพิกถอนที่ดินราชพัสดุแปลงท่าฉัตรไชย ที่ยกให้ตำรวจภูธรภาค 8 ก่อสร้างเป็นที่ทำการ 29 ไร่ เนื่องทับซ้อนป่าช้าของชาวมอแกนบ้านแหลมหลา ต.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
3.ให้พิจารณาโยกย้าย พ.ต.อ.ทรงภูมิ แจ้งเร็ว ผกก.สภ.เกาะยาว จ.พังงา เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัททุนข้ามชาติที่มีกรณีพิพาทกับชาวบ้านในพื้นที่เกาะยาว และมีการโยกย้ายบุคคลต่างถิ่นเข้ามาพื้นที่เป้าหมายเพื่อหวังผลชนะการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทำให้สังคมที่มีความรักกลมเกลียวกันแตกแยก เนื่องจาก พ.ต.อ.ทรงภูมิเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ระบบบัญชีรายชื่อในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง
4.ขอให้นายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หาทางป้องกันพนักงานอัยการที่เป็นชาวพังงาและเป็นอัยการคดีพิเศษ เนื่องจากมีการพิจารณาสั่งคดีที่ส่อไปในทางช่วยเหลือนายทุนชาวต่างชาติ ที่ถูกดำเนินคดีกรณีบุกรุกที่ดินเกาะยาว จ.พังงา
5.ขอให้สั่งการและแก้ไขกรณีข้าราชการของคณะกรรมการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐ (กบร.) และข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อ่านแปลภาพถ่ายเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ใน พื้นที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา และ 6.ขอให้พิจารณาสั่งให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารที่จะมีการก่อสร้างในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 80 เมตร ขึ้นไป

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: