กลุ่มพึ่งตนเอง : ดูงานที่ภาคเหนือ (2)
ภูเก็ตโพสต์ ฉบับวันที่ 1-15 มกราคา 2554
เช้าวันจันทร์ก่อนเดินทางไกล เรายืนดูแผนที่ประเทศไทย มองหาปลายทางของการเดินทาง ... จ.เชียงใหม่และเชียงราย การเดินทางไกลครั้งนี้ของชุมชนชายฝั่งไม่ใช่เพื่อท่องเที่ยวหากแต่เป็นการแสวงหาองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับชาวบ้านคนจนที่พูดจาภาษาเดียวกัน กลุ่มชาวบ้านเหล่านี้ดำเนินกิจกรรมภายใต้แนวคิดการพึ่งตนเองเป็นหลัก
เมื่อเสร็จภารกิจงานแล้วเราจึงรีบเดินทางไปสมทบที่เชียงใหม่ทันที เพราะไม่อยากพลาดช่วงเวลาของการแลกเปลี่ยนและบทเรียนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายชาวบ้านภาคเหนือ
พี่น้องชาวประมงภาคใต้เดินทางโดยรถตู้ 2 คัน ทั้งหมด 20 ชีวิต แห่งแรกที่แวะไปพูดคุยเมื่อเดินทางไปถึง จ.เชียงใหม่ คือ ศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้นำหรือเรามักจะเรียกกันติดปากว่า ศูนย์สารภี
ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรไทยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างนโยบายของรัฐที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับพวกเราชาวบ้านตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ที่เปลี่ยนแปลงประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำเป็นประเทศอุตสาหกรรม ภาคเหนือกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรม พี่น้องเรามีหนี้สิน และลูกหลานของเราเข้าไปแรงงานมีชีวิตอยู่กับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นชีวิตที่ไม่ดี เป็นบทสรุปของตัวแทนแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือหรือ นกน. จากการต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรมาตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี
นกน. ร่วมกันดผลักดันเรื่องกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สินและปลดหนี้ให้กับเกษตรกรรายย่อยจำนวนนับแสนรายเป็นเวลาหลายปีผ่านนายกรัฐมนตรีหลายคน จนล่าสุดรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีมติ ครม.วันที่ 7 เมษายน 53 โครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร
บทสรุปจากประสบการณ์ของตัวแทนของ นกน. ทำให้เรานึกถึงคำพูดของโซยลา บัสตามันเต ประธานสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านละตินอเมริกา จากประเทศชิลี กล่าวไว้ว่าชาวประมงพื้นบ้านไม่ได้เกิดมาจนโดยธรรมชาติ แต่เราจนเพราะถูกกระทำทั้งจากกฎหมาย นโยบายต่างๆ ที่เอื้อต่อนายทุน ปลาเป็นของส่วนรวมไม่ใช่สมบัติส่วนตัว กรุณาอย่าทำให้ปลาเป็นสมบัติของใครคนใดคนหนึ่ง เรามีปัญหาร้ายแรงจากเรืออวน ซึ่งรัฐบาลไม่เคยจัดการ เรามีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของเรา เรามีเครื่องมือและวิธีการจับปลาที่หลากหลาย ซึ่งล้วนเป็นวิธีที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
นั่นเป็นคำพูดที่คล้ายๆ กัน โดยที่ไม่ได้นัดหมาย เพียงคนหนึ่งเป็นเกษตรกรอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นชาวประมง นั่นสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาความยากจนที่เกิดกับชาวบ้านนั้นถูกกระทำจากโครงสร้างและนโยบายของรัฐบาล
แน่นอนว่าเราทุกคนจะคาดหวังกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หวังว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นของเราและชุมชนดีขึ้น แต่เมื่อแผนพัฒนาบางอย่างไม่สอดคล้อง แต่กลับไปตอบสนองต่อกลุ่มคนที่มีอันจะกินแทนชาวบ้าน ย่อมก่อให้เกิดความยากจนซ้ำซากและเป็นหนี้เป็นสินซ้ำซ้อนไม่จบสิ้นเสียที ในเสี้ยววินาทีเราลอบมองชาวประมงที่เดินทางมาด้วยกัน พบแววตา 2 ความหมาย ประการแรกรู้แล้วว่าทำไมเราถึงต้องเป็นหนี้ทั้งๆ ที่พยายามประหยัดและเก็บออม แต่หนี้สินก็มาเคาะประตูบ้านเป็นประจำ ส่วนอีกความหมายหนึ่งคือ รู้แล้วว่าจะปลดหนี้ให้กับตนเองได้อย่างไร
แม้ว่าในวันนี้เราได้รู้ที่มาที่ไปของการเป็นหนี้ และหนทางสู่การปลดหนี้ แต่สิ่งสำคัญที่ตัวแทนของแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือทิ้งท้ายให้คิดคือ การต่อสู้เพื่อให้ได้ซึ่งโครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรนั้นมิใช่ว่าได้มาโดยง่าย ทุกสิ่ง ทุกเรื่องล้วนแลกมาด้วยเลือดเนื้อของพี่น้องเครือข่ายทั้งสิ้น
โปรดติดตามฉบับหน้า
สุจารี ไชยบุญ
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน |