ชาวเกาะยาวเฮได้คืนที่ดินเดินลงหาหอยชักตีน ปปท.ชี้มูล เจ้าพนักงานที่ดินออกมิชอบ
28 เมษายน 2554
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 นี้ นายสวัสดิ์ ถิ่นเกาะยาวคณะ กรรมการ สน.ยุติธรรมเกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงยุติธรรมว่า กรณีที่ชาวเกาะยาว ได้ร้องต่อกระทรวงยุติธรรม ผ่านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ใช้เป็นเส้นทางในการเดินลงไปในทะเลเพื่อหาหอยชักตีนของชาวบ้านเกาะยาว บริเวณแหลมหาด ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งเป็นผลกระทบต่อวิถีชีวิตมุสลิมเกาะยาว เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก หอยชักตีนบริเวณนั้นเป็นหอยชักตีนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลอันดามัน จากฐานข้อมูลการสำรวจของนักวิชาการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงเป็นแหล่งอาหารและแหล่งอาชีพของชาวเกาะยาวนั้นเมื่อเร็วๆนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบเรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบประกอบกับ เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท)ประชุมสรุปผลการสืบสวนสอบสวนแล้วที่ประชุมมีความเห็นให้ ปปท.ชี้มูลเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด
พังงาพร้อมพวกไปยัง ปปช.และให้ส่งกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว
ถึงแม้ที่ดินแปลงนี้อาจจะไม่มากเป็นจำนวน 100 ไร่ แต่มีราคาสูงและส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตยาวเกาะยาวอย่างมาก และเรื่องนี้ มติชนเคยนำเสนอเป็นข่าวในช่วงของการร้องเรียนและตรวจสอบจึงแจ้งให้ทราบเป็นโอกาสแรกและถือว่าข่าวนี้เป็นข่าวดีที่สุด ของคนเกาะยาวในช่วงเริ่มต้นปีนี้
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษเฉพาะด้านป่าไม้ที่ดิน ดีเอสไอ ผู้รับผิดชอบตรวจสอบ กล่าวว่า ข้อมูลหลักฐานที่ตรวจสอบพบว่า ที่ดินบริเวณดั่งกล่าวมี สค. 1 บิน มาทับ1 แปลง อีก 2 แปลงมี นส.3 แต่เมื่อปี 2539 กรมที่ดินได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เกาะยาวไปตรวจสอบที่ดินแปลงนี้แล้ว เนื่องจากเป็นที่ดินที่อยู่ในเครือข่ายของทุนข้ามชาติ กลุ่มที่ ดีเอสไอ ดำเนินคดีและคดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่าย 4 ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินในสมัยนั้นได้มีความเห็นว่าเป็นเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบ เสนอต่อกรมที่ดิน แต่อธิบดีกรมที่ดินในสมัยนั้นไม่ย่อมดำเนินการเพิกถอน จึงเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากนั้น เมื่อมีการเพิกถอนในตอนหลังและออกเอกสารสิทธิ์ทับอีกจึงมีปัญหา
ที่ประชุมมีความเห็นให้ดำเนินคดีอธิบดีกรมทีดินที่ดำรงตำแหน่งในปี 2539 ด้วยและดีเอสไอก็ได้ส่งผลการสอบสวนพบว่าเป็นเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบไปยังที่ดินจังหวัดพังงาหากมีการทำนิติกรรมใดๆในที่ดินแปลงน ี้เจ้าพนักงานที่ดินจะได้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่าเป็นที่ดินที่มีการตรวจสอบพบว่ามิชอบตามกฏหมายที่ดิน
นายอำพล วงศ์ศิริ เลขา ปปท. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่ดินสำนักงานจังหวัดพังงาที่อยู่ในข่ายต้องส่ง ปปช.สืบสวนสอบสวนมีทั้งหมด 5 คน ตั้งแต่ช่างรังวัดจนกระทั้งเจ้าพนักงานที่ดินที่ดำรงตำแหน่งในช่วงที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ใหม่ คือในช่วงปี 2553และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดำเนินการ
คดีนี้เป็นคดีที่ 2ของจังหวัดพังงาที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบ ที่ ปปท.ส่ง.สำนวนการสอบสวนต่อให้ ปปช.สืบสวนสอบสวนเอาผิด
นายแนบ ชามทอง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องว่าถูก ปปท.ส่งสำนวนการสอบสวนให้ ปปช. แต่ทราบวันที่คณะลงมาตรวจสอบและได้ชี้แจ้งไปแล้ว ซึ่งที่ดินที่มี สค.1 หน้าหาด ออกไม่ได้ ก็มีการออกใหม่แต่อย่างใด แต่สำหรับอีก 2 แปลงที่เป็น นส.3 เนื่องจากมีเอกสารสิทธิ์เดิมและเมื่อมีผู้มายืนขอออกโฉนดที่ดินในเอกสารสิทธิ์เดิมถูกต้องตามขั้นตอนจึงออกเอกสารสิทธิ์ให้ ซึ่งถือว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามปกติ |