"ตัน เต็ก ไฮ้-วาเลนติโน" นักค้าที่ดินรายใหญ่อันดามันนายทุนมาเลย์ผู้มั่งคั่ง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 06 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เปิดตัวนายทุนมาเลย์หลุดคดีรุกเกาะยาว "ตัน เต็ก ไฮ้-วาเลนติโน" นักค้าที่ดินรายใหญ่อันดามันผู้มั่งคั่ง เผยเข้ามาปักฐานทำธุรกิจในภูเก็ตหลายปี รู้จักกันทั้งเมือง และเป็นผู้บริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลอย่างต่อเนื่อง
คนทั่วไปไม่คุ้นเคยนักกับชื่อ "ตัน เต็ก ไฮ้ หรือ วาเลนติโน" แต่ในแวดวงนายแบงก์ นักการเมือง นักธุรกิจ นักค้าที่ดิน และชาวภูเก็ต-พังงาส่วนใหญ่ต่างรู้จักกันดี เนื่องจาก... เขาเป็นนักค้าที่ดินชั้นแนวหน้าของฝั่งอันดามัน , เขาเป็นลูกค้าคนสำคัญของธนาคารหลายแห่ง , เขาเป็นผู้ที่ "ใช้เงินเป็น" อย่างยิ่ง
วาเลนติโน ชื่อฝรั่ง แต่ เขาเป็นคนจีน สัญชาติมาเลเซียที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศมอร็อกโค ประจำพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ และเขาเป็นผู้บริจาคเงินให้กับองค์กรต่างๆในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
และบ่อยครั้งที่เขาทำหน้าที่ต้อนรับแขกวีไอพี เพราะมีความรู้จักสนิทสนมกับบรรดารัฐมนตรี และเหล่านายแบงก์ที่ไปเยือนภูเก็ต อีกทั้งยังคุ้นเคยกันดีกับผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานอาเซียนคนหนึ่ง
"ตัน เต็ก ไฮ้" เป็นคนจีน สัญชาติมาเลเซีย ได้เข้ามาตั้งหลักปักฐานทำธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตนายหลายสิบปีแล้ว
กระทั่งมีภรรยาเป็นชาวภูเก็ตชื่อ นางสุดใจ หรือสุวภัทร คีรีพอน ประวัติการทำธุรกิจปรากฎขึ้นในช่วงปี 2531-2534 โดยร่วมกับเพื่อนซี้ชาวมาเลเซียอีกคน ชื่อ "นายตัน จี้เคี้ยง" ที่เข้ามาปักหลักทำกินในเมืองไทย นายตัน จี้เคี้ยง ได้ก่อตั้งบริษัท อุตสาหกรรมไทยโกโก้ จำกัด พร้อมทั้งได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อใช้ปลูกโกโก้ แต่กิจการไปไม่รอด พร้อมแบกภาระหนี้ที่จะต้องจ่ายเป็นค่าที่ดินให้แก่ชาวบ้าน
ในช่วงนั้นนายตัน เต็ก ไฮ้ ก็ได้ตั้งบริษัท สยามเมอริกา พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด และได้ขอกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) จำนวนกว่า 400 ล้านบาท โดยเข้าค้ำประกันในฐานะส่วนตัว ซึ่งต่อมา บีบีซี. ถูกยักยอกฉ้อโกง จนเจ๊งปิดกิจการ
นอกจากนี้ยังมีการข้อกู้เงินเพิ่มอีกหลายครั้ง พร้อมทั้งรวบรวมที่ดินแปลงใหญ่อย่างน้อย 7 แปลงเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ โดยมีการเขียนโครงการเพื่อประกอบการขอกู้เงินว่าจะมีการลงทุนก่อสร้างบิ๊กโปรเจ็กต์ทั้งโครงการบ้านพักตากอากาศ โรงแรม ศูนย์การค้า และสนามกอล์ฟบนพื้นที่ อ.เกาะยาว จ.พังงาอีกด้วย
ซึ่งไม่นานโปรเจ็กต์นี้ก็ล่มไป และต่อมา บีบีซี ได้ปิดกิจการ ซึ่งหลังจากนั้นสินทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ของบริษัท สยามเมอริกา พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้ถูกโอนต่อๆกันมาจนกระทั่งในวันที่ 30 มีนาคม 2549 บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยจำกัด หรือ บสท. ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจำนวน 20 แปลงจากบริษัท สยามเมอริกา ฯ
ประเด็นสำคัญก็คือ ในขณะนี้ที่ดินส่วนใหญ่ดังกล่าวถูกตรวจพบจากกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ว่า " มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ"
โดยเฉพาะเอกสารสิทธิที่ดินทั้ง 7 แปลงที่ออกในนามบริษัท จี้เลี้ยงการประมง จำกัดของนายตัน เต็ก ไฮ้ ส่วนใหญ่เป็นการนำหลักฐาน ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาใช้ออก น.ส.3 ก (ส.ค. 1 บิน) ทั้งสิ้น
และล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 นี้ ดีเอสไอได้ทำหนังสือแจ้งให้อธิบดีกรมที่ดินทราบแล้วว่า ต้องเข้าสู่กระบวนการ "เพิกถอน" เพื่อให้ที่ดินกลับคืนมาเป็นของรัฐหรือเป็นสมบัติของส่วนรวม เพราะอำนาจการเพิกถอนเอกสารสิทธิเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมที่ดิน
นอกจากนี้ในช่วงปี 2538-2539 นายตัน เต็ก ไฮ้ ยังได้ร่วมกับนายตันจี้เคี้ยง ก่อตั้งบริษัท ภูเก็ตลองไอส์แลนด์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด โดยเป็นกรรมการร่วมกัน และยังมีบริษัทในเครืออีกจำนวนหนึ่ง เช่น บริษัท ภูเก็ตโพรเกรสซีพเรียลตี้ จำกัด บริษัท เอวี จิวเวลรี่ จำกัด
นี่คือ ความมั่งคั่งของนายทุนมาเลย์ที่เข้ามาสร้างเนื้อสร้างตัวบนแผ่นดินไทย !!!
และเขาได้ถูกแจ้งข้อหาในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกถือครองที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ร่วมกับประมวลกฎหมายที่ดิน และประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมนี้ อัยการฝ่ายคดีพิเศษได้พิจารณาสั่งคดี โดยมีความเห็น "สั่งไม่ฟ้อง" ไปแล้ว 1 คดี แต่ยังเหลืออีกหลายสิบคดีในมืออัยการ
|