ภูเก็ตเศร้า!ย้ายประชุมผู้นำอาเซียน

หนังสือพิมพ์เสียงใต้   15 ส.ค. 2552

ย้ายที่จัดประชุมสุดยอดผู้นําอาเซียน จากกรณีที่ทางรัฐบาล ได้ประกาศย้ายการประชุมสุดยอดผู้นำ อาเซียน ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.นี้

โดยเบื้องต้นรัฐบาลได้ประกาศเลือกจังหวัดภูเก็ต แต่วันนี้ได้ประกาศย้ายสถานที่เลือก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี สำหรับความคิดเห็นในเรื่องเดียวกันนี้

นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้เลือกสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมนี้ จากจังหวัดภูเก็ตไปเป็น หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า รู้สึกเสียดาย เพราะจะทำให้เสียโอกาส ส่วนทางสมาคมฯจะมีการดำเนินการอย่างใดนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจนว่าเพราะอะไร แต่ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่าจะมีการเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำไปจัดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากในส่วนของผู้นำจะต้องเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการจัดระบบการรักษาความปลอดภัย เพราะหากจัดที่ จ.ภูเก็ต ก็ต้องแบ่งกำลังรักษาความปลอดภัยออกเป็น 2 ชุด

นายสมบูรณ์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของไทย ออกมาระบุว่าเหตุที่ต้องย้ายไปจัดที่หัวหิน เนื่องจากในห้วงเวลาดังกล่าว จ.ภูเก็ต มีการประกอบพิธีถือศีลกินผักและเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัย ว่าการจัดกิจกรรมเนื่องในประเพณีถือศีลกินผักนั้นคงไม่สามารถที่จะย้ายวันได้อย่างแน่นอน แต่คิดว่าไม่ใช่เหตุผลหลักของการเปลี่ยนสถาน ที่จัดการประชุม และการจุดประทัดในช่วงที่มีการประกอบพิธีก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะสามารถที่จะแก้ไขหรือบริหารจัด การได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอฟังคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ชัดเจนของทางรัฐบาลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเป็นผลมาจากที่มีกระแสข่าวลือการวางระเบิดและมีการจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายเจไอ     ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ      อาเซียนครั้งที่ 42 และการประชุมที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งนายสมบูรณ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่เหตุผลเช่นกันเพราะเรื่องของของข่าวลือไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็สามารถลือกันได้ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องรอคำชี้แจงจากรัฐบาลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร

ด้านนายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า การเปลี่ยนสถานที่จัดประชุม จาก จ.ภูเก็ต ไปเป็นที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทั้งนี้เนื่องจากการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ลงมติว่าที่อ.ชะอำมีความเหมาะสมในการวางระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยมากที่สุด เพราะในวันที่        23-25 ตุลาคมนี้ ทาง จ.ภูเก็ต จะมีเทศกาลกินเจ ซึ่งอาจส่งผลต่อการประชุม จึงต้องเปลี่ยนสถานที่เพื่อความปลอดภัยของคณะผู้นำแต่ละประเทศ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทางและห้องพัก

อย่างไรก็ตาม การออกมาพูดถึงสาเหตุการย้ายสถานที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจากภูเก็ตไปจัดที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี โดยอ้างถึงเรื่องของการดูแลความปลอดภัยผู้นำนั้นคิดว่าเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของจังหวัดภูเก็ตลงโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าพูดแค่เรื่องของการจัดประชุมที่จังหวัดภูเก็ตไม่ได้เพราะเป็นช่วงที่จังหวัดภูเก็ตงานประเพณีถือศีลกินผักก็ เป็นเรื่องที่ยอมรับได้แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของความปลอดภัย อาจจะทำให้หลายคนคิดว่าภูเก็ตไม่มีความปลอดภัย และมองว่าเป็นการทำลายความเชื่อมันของจังหวัดภูเก็ตไปอย่างสิ้นเชิงการที่รัฐบาลไม่เลือกจังหวัดภูเก็ตนั้นในส่วนของภาคเอกชนภูเก็ต ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง แต่ไม่สมควรที่จะกล่าวอ้างเรื่องของความไม่ปลอดภัย ถ้ากล่าวอ้างเรื่องของประเพณี ก็เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเข้าใจและยอมรับได้ ซึ่งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ จ.ภูเก็ต ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เนื่องจากชาวภูเก็ตทุกคน    พร้อมเป็นเจ้าบ้านต้อนรับทุกคนอย่างดี และหากจะมีอ้างเรื่องความปลอดภัย เหมือนมองให้เห็นว่า จ.ภูเก็ตไม่มีความปลอดภัย เป็นการทำลายความเชื่อมั่น จ. ภูเก็ต ไปอย่างสิ้นเชิง

นายสุนทร  โต๊ะหมาน ประธานกลุ่มพิทักษ์ประชาธิปไตยภูเก็ต (เสื้อแดงภูเก็ต) กล่าวว่ารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง จากการที่รัฐบาลเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนไปจัดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และ เพชรบุรี ในครั้งนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นทางกลุ่มเสื้อแดงให้ความร่วมมือร่วมใจและสนับสนุนในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน จนกระทั่งสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และอยากจะให้มีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง  อย่างไรก็ตามจากการที่รัฐบาลออกมาให้เหตุผลถึงเรื่องต่างๆอาทิความปลอดภัยของผู้นำ และเป็นช่วงเทศกาลถือศีลกินผักในช่วงเดือนตุลาคมนี้ นั้นเหมือนกับเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของจังหวัดภูเก็ตอย่างแท้จริง และเป็นเหตุผลข้างๆคูๆ ฟังไม่ขึ้น  ส่วนเสื้อแดงภูเก็ตที่จะมีการเคลื่อนไหวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับมติของพี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศ  แต่ทว่ามองอีกแง่หนึ่งการย้ายที่ประชุมฯของรัฐบาลเป็นการวางกับดักให้กลุ่มเสื้อแดงไปตกหลุมพรางอีกครั้งหนึ่ง