ฉุนอัยการสั่งไม่ฟ้อง! รุกที่เกาะยาวชาวบ้านฮือวางหรีดประท้วง
จากหนังสือพิมพ์ประชาชาติอิสลามออนไลน์ วันที่ 25 สิงหาคม 2552
วันนี้ ( 25 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก กลุ่มชาวบ้านเกาะยาว จ.พังงา กว่า 10 คน นำโดย นายสวัสัดิ์ ถิ่นเกาะยาว อายุ 27 ปี กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเล และกลุ่มเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน ต.เกาะยาวใหญ่ นำพวงหรีดเขียนข้อความ แด่อาลัยอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และป้ายผ้าใบเขียนข้อความระบุว่า เป็นทนายของแผ่นดินอย่าขายแผ่นดิน มาตั้งประท้วงที่หน้าสำนักงานอัยการ แสดงความไม่พอใจการปฎิบัติงานของอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กรณีที่มีคำสั่งไม่ฟ้องนายตันเต็กไฮ้ หรือวาเลนติโน อดีตกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศมอร็อคโค นางสุขใจ หรือสุวภัทร คีรีพยน และนายเชาวพงศ์ เมฆารักษ์กุล ผู้ต้องหาที่ 1 - 3 คดีบุกรุกที่ดินเกาะยาว จ.พังงา ในความผิดฐานร่วมกันเข้าไปยึดครอง ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก พนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54 , 72 วรรค 2 ป.อาญา ม.83
นายสวัสดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมาอัยการได้นัดให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 มาพบ เพื่อฟังคำสั่งคดี แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 กลับหลบหนีไม่เดินทางมา อัยการกลับสั่งไม่ฟ้องคดี ทำให้คดีขาดอายุความ อีกทั้งการประสานงานของอัยการคดีพิเศษและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 มาดำเนินคดีก็มีความล่าช้า กลุ่มชาวบ้านเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวของอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แล้วเชื่อว่า เป็นการช่วยเหลือให้นายวาเลนติโนและกลุ่มผู้ต้องหา หลุดพ้นจากการถูกดำเนินคดี ซึ่งคดีบุกรุกที่ดินบนเกาะยาว ที่นายวาเลนติโนกับพวกตกเป็นผู้ต้องหายังมีอีกหลายคดี จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นจึงเตรียมนำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยื่นต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ขอให้เปลี่ยนคณะอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนคดีรุกเกาะยาวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ธุรการของพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ พยายามติดต่อให้กลุ่มชาวบ้านขึ้นไปพบและพูดคุยกับ นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ที่เตรียมพร้อมรับฟังปัญหาและชี้แจ้งเกี่ยวกับคดีนี้ แต่กลุ่มชาวบ้านปฎิเสธ แต่ยืนกรานจะประท้วงที่หน้าสำนักงาน และยืนยันว่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดเท่า นั้น
ด้าน นายเศกสรรค์ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคิดพิเศษ 4 เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาสำนวนดังกล่าว และได้ส่งพยานหลักฐานและสำนวนคดีมาให้ตนพิจารณาแล้ว ยืนยันว่าคดียังไม่ได้ขาดอายุความ ส่วนที่มีความเห็นสั่งฟ้องคดีนั้นเนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาซื้อที่ดิน พิพาทจากธนาคารจึงเป็นการขาดเจตนาในการกระทำความผิด ซึ่งทางดีเอสไอมีความเห็นแย้งว่าสมควรจะสั่งฟ้อง ตนจึงส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อชี้ขาด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนเหตุที่ชาวบ้านมาประท้วงน่าจะมาจากความเข้าใจผิด และคิดว่าคดีขาดอายุความจึงสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา
|