ประท้วงอัยการไม่ฟ้องอดีต"กงสุล"
มติชนรายวัน 26 สิงหาคม 2552
"อธิบดี"แจงขาดเจตนารุก"พังงา" "ดีเอสไอ"เห็นแย้งส่งอสส.ตัดสิน
ชาวบ้านวางพวงหรีดประท้วงอัยการคดีพิเศษ สั่งไม่ฟ้อง"อดีตกงสุลโมร็อกโก-พวก"รุกที่ดินเกาะยาว "อธิบดี"แจงผู้ต้องหาซื้อจากธนาคารขาดเจตนา "ดีเอสไอ"เห็นแย้งส่ง อสส.ชี้ขาด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ชาวบ้านเกาะยาว จ.พังงา นำโดยนายสวัสดิ์ ถิ่นเกาะยาว อายุ 27 ปี กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเล และกลุ่มเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน ต.เกาะยาวใหญ่ 10 คน นำพวงหรีดเขียนข้อความ "แด่อาลัยอัยการฝ่ายคดีพิเศษ" และป้ายผ้าใบเขียนข้อความระบุว่า "เป็นทนายของแผ่นดินอย่าขายแผ่นดิน" มาตั้งประท้วงที่หน้าสำนักงานอัยการ แสดงความไม่พอใจการปฏิบัติงานของอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กรณีที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายตันเต็กไฮ้ หรือวาเลนติโน อดีตกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศโมร็อกโก นางสุขใจ หรือสุวภัทร คีรีพยน และนายเชาวพงศ์ เมฆารักษ์กุล ผู้ต้องหาที่ 1-3 คดีบุกรุกที่ดินเกาะยาว จ.พังงา ในความผิดฐานร่วมกันเข้าไปยึดครอง ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่
โดยนายสวัสดิ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา อัยการได้นัดให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 มาพบ เพื่อฟังคำสั่งคดี แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 กลับหลบหนีไม่เดินทางมา อัยการกลับสั่งไม่ฟ้องคดี ทำให้คดีขาดอายุความ อีกทั้งการประสานงานของอัยการคดีพิเศษและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 มาดำเนินคดีก็มีความล่าช้า กลุ่มชาวบ้านเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวของอัยการฝ่ายคดีพิเศษ แล้วเชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือให้นายวาเลนติโนและกลุ่มผู้ต้องหา หลุดพ้นจากการถูกดำเนินคดี ซึ่งคดีบุกรุกที่ดินบนเกาะยาว ที่นายวาเลนติโนกับพวกตกเป็นผู้ต้องหายังมีอีกหลายคดี จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น จึงเตรียมนำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยื่นต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ขอให้เปลี่ยนคณะอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนคดีรุกเกาะยาวต่อไป
ด้านนายเศกสรรค์กล่าวว่า คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาสำนวนดังกล่าว และได้ส่งพยานหลักฐานและสำนวนคดีมาให้ตนพิจารณาแล้ว ยืนยันว่าคดียังไม่ได้ขาดอายุความ ส่วนที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนั้นเนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาซื้อที่ดินพิพาทจากธนาคารจึงเป็นการขาดเจตนาในการกระทำความผิด ซึ่งทางดีเอสไอจะมีความเห็นแย้งว่าสมควรจะสั่งฟ้อง ตนจึงส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อชี้ขาด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนเหตุที่ชาวบ้านมาประท้วงน่าจะมาจากความเข้าใจผิดคิดว่าคดีขาดอายุความจึงสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาซึ่งไม่ใช่
|