homeaboutusprojectnewsdata


english

 
 
   

   
 
 
 

ภูเก็ตเบรกสร้างมารีนา

หนังสือพิมพ์เสียงใต้วันที่ : 11 ก.ย. 2552

จังหวัดภูเก็ตประกาศไม่อนุญาตให้เอกชนก่อสร้างท่าเทียบเรือและมารีนาอีกแล้วนับจากนี้ ให้ใช้ท่าเรือสาธารณะแทน หวังรักษา

สภาพทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลให้อยู่คู่เกาะภูเก็ต ผู้ว่าฯเผยมีเอกชนหลายราย กว้านซื้อที่ดินเกาะสิเหร่ และชายฝั่งตะวันออกหวังพัฒนาโครงการและสร้างมารีนาในทะเล รับไม่ได้ชายฝั่งทะเลของภูเก็ตมีสิ่งก่อสร้างแปลกปลอมยื่นลงไปในทะเลเหมือนใยแมงมุม
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการการป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากการก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีนา และท่าเรืออื่นๆในจังหวัดภูเก็ต ในการประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ การพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 5/2552 ว่า คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาราย งานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานได้หารือถึงมาตร การในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของภูเก็ตในทะเล ที่ผ่านมา เอกชนได้มีการยื่นขอสร้างท่าเทียบเรือยอชต์หรือมารีนาเป็นจำนวนมากในฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต ทำให้ทัศนวิสัยทางชายฝั่งตะวันออกมีลักษณะเหมือนใยแมงมุม มีสิ่งก่อสร้างที่ยื่นลงไปในทะเลเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญการก่อสร้างท่าเรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งปะการังและหญ้าทะเล รวมทั้งกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีที่เอกชนยื่นขออนุญาตก่อสร้างท่าเรือมารีนา จะได้รับการคัดค้านจากชาวบ้านในชุมชนนั้นมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ ภูเก็ตเห็นว่าจังหวัดภูเก็ตควรที่จะมีการควบคุมไม่ให้มีการก่อสร้างท่าเรือมารีนาในภูเก็ตอีก เพราะเท่าที่ทราบมาขณะนี้มีการกว้านซื้อที่ดินที่เกาะสิเหร่ และพื้นที่อื่นๆทางฝั่งตะวันออกเพื่อพัฒนาโครงการบนฝั่งและสร้างท่าเรือมารีนาในทะเลอีกหลายโครงการ หากยังปล่อยให้มีการก่อสร้างกันไปเรื่อยๆ สิ่งแวดล้อมในทะเลทั้งปะการังและหญ้าทะเลจะไม่เหลืออีกเลย ดังนั้นจังหวัดจึงมีนโยบายเกี่ยวกับการก่อสร้างท่าเรือมารีนาของเอกชน โดยให้เอกชนใช้ท่าเรือมารีนาหรือท่าเรือที่เป็นท่าเรือสาธารณะ แทนการก่อสร้างมารีนาในโครง การ หลังจากนั้นเอกชนก็สามารถที่จะพัฒนาเส้นทางบนบกจากท่าเรือสาธารณะเข้าสู่โครงการของตัวเองได้ ทั้งนี้เพื่อรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่าง ยิ่งยวด
ด้านนางสาวนลินี ทองแถม นักวิชาการจากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาการยื่นขอก่อสร้างท่าเทียบเรือของเอกชนจะอ้างว่า จะให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากท่าเรือด้วย แต่สภาพความเป็นจริงเมื่อก่อสร้างแล้ว เสร็จ ประชาชนไม่สิทธิ์ที่จะเข้าไปใช้ท่าเรือเหล่านั้นได้แม้แต่โครงการเดียว การไม่อนุญาตให้มีการก่อสร้างท่าเรือมารีนาอีก ถือเป็นสิ่งที่ดี เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทะเลถูกทำลายน้อยลง การก่อสร้างทุกโครงการย่อมมีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้นแล้วแต่ว่าจะมากน้อย แค่ไหน
“ส่วนตัวแล้วเห็นว่า จังหวัดภูเก็ตน่าที่จะมีการควบคุมดูแลการก่อสร้างท่าเรือในระยะยาว โดยการจัดเป็นโซนนิ่งหรือกำหนดลงไปให้ชัดเจนว่า ท่าเรือที่จะก่อสร้างได้จะต้องอยู่ห่างจากท่าเรือสาธารณะมากน้อยแค่ไหน หากโครงการใดอยู่ไม่ห่างจากท่าเรือสาธารณะก็ให้ใช้ท่าเรือสาธารณะ รวมทั้งในระยะยาวก็ให้จัดแผนแม่บทในการก่อสร้าง โดยการร่วมมือจากหน่วยงานหลายๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการแบ่งเขตให้ชัดเจน แต่คิดว่าคงจะต้องใช้เวลานานในการดำเนินการ เพราะจะต้องรื้อผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินชายฝั่งใหม่ทั้งหมด” นางสาวนลินี กล่าว

 

 
 
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (ARR) 24/28 หมู่ 1 ถนนศักดิเดช  ต.วิชิต อ. เมือง จ.ภูเก็ต 83000  
โทรศัพท์/โทรสาร 076-393458    Email: