ตื่นขี้ปลาวาฬแห่ลงทะเลหาราคาโลละหมื่น

หนังสือพิมพ์เสียงใต้วันที่  1 ต.ค. 2552

ชาวประมง เก็บได้ขี้ปลาวาฬหรืออำพันกลางทะเลเกาะระ - เกาะพระทองจำนวนมาก คาดราคาซื้อ – ขาย กก.นับหมื่นบาท ชาวบ้านแตกตื่นแห่ลงทะเลค้นหา

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านหินลาด ม.3 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา มีชาวประมงพื้นบ้านภายหลังออกหาปลาในทะเลได้พบ ขี้ปลาวาฬ หรือ อำพัน ลอยอยู่กลางทะเลเป็นจำนวนมากและบางส่วนได้ถูกคลื่นซัดเข้ามาติดอยู่ตามบริเวณโขดหินและชายหาด ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านจำนวนมากเก็บขี้ปลาวาฬหรืออำพัน ดังกล่าวนำมาเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อเตรียมขายให้กับพ่อค้า ที่ซื้อในราคาประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ต่อ กิโลกรัม ขณะเดียวกันมีชาวบ้านที่ทราบข่าวแหล่งทะเลกันเป็นจำนวนมาก เพื่อค้นหาขี้ปลาวาฬดังกล่าว โดยทราบว่าขี้ปลาวาฬ หรือ อำพัน สามารถนำไปสกัดเป็นน้ำหอมคุณภาพราคาสูงมาก และสามารถทำเป็นยารักษาโรคบางอย่าง ได้อีกด้วย

นายสุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์      ผู้เชี่ยวชาญฯสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง   กล่าวว่า ปลาวาฬชนิดนี้เป็นปลาวาฬ    หัวทุยขนาดลำตัวยาว 20 -25 เมตร น้ำหนัก 20 -30 ตัน ซึ่งจะชอบกินอาหารประเภทปลาหมึกเป็นพิเศษ สาเหตุสำคัญของการเกิด ขี้ปลาวาฬ หรือ อัมพัน เนื่องจากส่วนของอาหารที่กินเข้าไปยังย่อยไม่ได้ก็จะสะสมอยู่ในกระเพาะอาหารในรูปของไขมัน เมื่อสะสมนานเข้าก็จะจับเป็นก้อนไขมัน เรียกว่าอัมพัน ซึ่งมีขนาดใหญ่มากอยู่ในกระเพาะ และจะถ่ายออกมาเรื่อยๆพร้อมกับขี้ มีลักษณะตามที่ชาวประมงได้ไปพบมา ซึ่งส่วนที่เป็นขี้จริงๆก็จะสลายไป ส่วนที่เป็นไขมัน หรือที่เรียกว่าอัมพันก็ยังจับเป็นก้อนลอยอยู่ตามผิวน้ำในทะเล ซึ่งมักจะพบ อยู่ในปลาวาฬตัวใหญ่ๆ ประโยชน์สามารถนำไปสกัดเป็นหัวน้ำหอมที่มีราคาแพงมาก ซึ่งปกติจะมีไม่มากขนาดนี้ แต่ที่ชาวบ้าน ไปพบในครั้งนี้มีมากกว่า ปกติทั่วไปซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก

นายสมชาย บุญเทียม อายุ 40 ปี อาชีพประมงพื้นบ้านเจ้าของขี้ปลาวาฬ อยู่ 83/25 บ้านหินลาด ม.3 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา เปิดเผยว่า ขณะตนเองออกเรือหาปลาบริเวณใกล้เกาะระ - เกาะพระทอง ได้มองเห็นวัตถุเป็นก้อนสีเหลืองขนาดต่างๆเป็นจำนวนมากลอยปริ่มน้ำอยู่กลางทะเล จึงเก็บขึ้นมาดู พบว่าเป็นขี้ปลาวาฬ หรือ อัมพัน ซึ่งตนเองเคยเก็บมาได้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อก่อนเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ จึงทำให้ทราบว่าสามารถนำไปขายเป็นราคาได้ จึง เก็บมาเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อเตรียมนำไปขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อ โดยครั้งก่อนเคยนำไปขายให้กับพ่อค้าที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในราคากิโลกรัมละ 3,000 บาท แต่มาทราบในภายหลังว่าขี้ปลาวาฬดังกล่าวมีราคาซื้อ - ขายกันกิโลกรัมละนับหมื่นบาท

ต่อมาวันเดียวกันนายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ไปตรวจสอบ ขี้ปลาวาฬ หรืออำพัน ที่ชาวประมงพื้นบ้านนำขึ้นมาจากทะเล ลักษณะเป็นก้อนคล้ายเทียนไข มีสีเหลือง และ สีขาว น้ำหนักขนาด 4.4 กก. กับ 6 กก. กับอีกจำนวนมากที่เก็บอยู่ตามบ้าน ที่บ้านหินลาด ม.3 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา