กุ้งกะปิ
กะปิที่ได้จากกุ้งเคย (1)
ภูเก็ตโพสต์ ฉบับวันที่ 16-31 กรกฎาคม 2552
รู้จัก กะปิ กันดีทุกคนใช่ไหม?
และรู้ไหมว่า กะปิ ได้มาจากไหน ทำอย่างไรจึงเป็นกะปิ??
ตั้งแต่จำความได้และรู้จักลิ้มรสชาติความอร่อยของอาหาร น้ำพริกกะปิเป็นเมนูหนึ่งของอาหารมื้อเย็น ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่เคยรู้ว่ากะปินั้นทำมาจาก กุ้ง ...กุ้งตัวเล็กมากที่เรียกว่า กุ้งเคย
วัตถุสีเทาดำบ้าง สีเทาๆ ออกม่วงแดงบ้างกลิ่นแรงนั้นเมื่อเป็นส่วนประกอบหนึ่งของอาหารเพิ่มรสชาติให้อร่อยไม่น้อยเลยทีเดียว
คงไม่แปลกสำหรับคนเมืองที่เป็นผู้บริโภคเพียงอย่างเดียวที่ไม่เคยรู้ที่มาที่ไปของสินค้าที่กำลังบริโภค
เช้ามืดวันหนึ่งเราขอติดเรือแจวลำเล็กๆ ของจ๊ะเซียะ (จ๊ะแปลว่าพี่สาว) หรือ มีเซียะ ทองแก้ว ชาวประมงพื้นบ้าน หมู่บ้านในหงบ จ.พังงา โดยปกติจ๊ะเซียะออกทำประมงเพียงลำพัง ในเรือมีอวนปลากระบอก และสลิง(มีลักษณะเป็นคันรุนทำจากไม้ไผ่และผ้ามุ้งสีฟ้าเย็บเป็นถุงประกอบเข้ากับคันไม้ไผ่) หรือบางแห่งจะเรียกว่า ละวะ หรือ อีลู่ (เครื่องมือประมงพื้นบ้านสำหรับรุนกุ้งเคย) บางครั้งจะติดแหไปด้วยเผื่อทอดแหได้ปลาหรือกุ้ง
จ๊ะเซียะแจวเรือด้วยไม้พายคู่ด้วยท่าทางทะมัดทะแมง แจวกับไปคุยกันไปจนแสงแรกของวันแย้มมาทักทายเรา แม้จะรับรู้มาตลอดทางว่า ลำคลองในหงบที่แจวเรือมาตลอดทางนั้นขนาบด้วยป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งใน จ.พังงา
เมื่อถึงที่หมายจ๊ะเซียะมองเห็นกุ้งเคยฝูงเล็กๆ ริมชายฝั่งป่าชายเลน จึงหยิบเครื่องมือละวะ (จะเรียกละวะ , สลิงหรืออีลู่แล้วแต่ละพื้นที่) ออกมารุนกุ้งเคย เดินรุนตามริมชายฝั่งป่าชายเลน หรือบริเวณปากคลอง ก่อนจะรุนกุ้งเคยนั้นจะต้องดูว่ากุ้งเคยขึ้นเป็นฝูงหรือไม่ ถ้ามีจึงเดินรุน
จ๊ะเซียะบอกว่า วันนี้กุ้งไม่ขึ้น หมายถึง ไม่มีกุ้งเคย ถ้าได้กุ้งเคย อย่างต่ำประมาณ 5 กิโลกรัม นำมาทำเป็นกะปิ ได้ 2.5 กิโลกรัม ขายส่ง กิโลกรัมละ 80 บาท ราคาขายปลีก กิโลกรัมละ 100 บาท และเคยได้กุ้งเคยมากที่สุด 30 กิโลกรัมต่อวัน
วันที่เราลงเรือแจวไปนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน อากาศดีมากท้องฟ้าแจ่มใส แต่เอาแน่นอนอะไรกับฝนพังงา ฟ้าภูเก็ตไม่ได้หรอก
ฤดูฝน คือช่วงที่ได้กุ้งเคยมาก อยู่ระหว่างเดือน พฤษภาคม ธันวาคม และ ช่วงที่ได้กุ้งเคยน้อย คือฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือน มกราคม เมษายน
เป็นความตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็น กุ้งเคย ที่รุนกันซึ่งหน้า แม้จะเคยเห็นกุ้งเคยมาก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่เคยได้ร่วมกระบวนการได้มาของกุ้งเคย
กุ้งเคย เป็นกุ้งขนาดเล็กมากถึงมากที่สุด แทบจะมองไม่เห็นตัว เห็นแต่ตาสีดำๆ
จ๊ะเซียะบอกว่า กุ้งจะอยู่ตามแนวป่าชายเลน มีป่าชายเลนก็มีกุ้ง ยิ่งช่วงหน้าฝนจะได้กุ้งเยอะ
เห็นจะเป็นจริงอย่างที่จ๊ะเซียะบอก แนวป่าชายเลนที่ขนานไปตามแนวลำคลองนั้นค่อนข้างสมบูรณ์ ลำต้นอวบใหญ่เหยียดตรงใบสีเขียวเข้ม
ลองถามจ๊ะเซียะเล่นๆ ว่า ถ้าป่าชายเลนเหลือนิดเดียวหรือมีใครสักคนมาลักลอบตัดไม้ไป จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ
จ๊ะเซียะหัวเราะและตอบแบบไม่ต้องคิด ก็ไม่มีเคย (เคย คือกุ้งเคย)
เมื่อก่อนรู้เพียงแค่ ...คุณค่าของป่าชายเลนนั้นนำไม้มาเผาเป็นถ่านคุณภาพดี แต่แท้ที่จริงป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่สำคัญของชายฝั่ง และมีค่ามากกว่าเป็น ถ่าน
แม้เช้าวันนั้นจะได้กุ้งเคยเพียงแค่ 1 กิโลกรัม จ๊ะเซียะบอกว่า ก็ไม่เป็นไร คิดเสียว่ามาแจวเรือเล่นให้สบายใจ
...เพราะตราบใดที่ป่าชายเลนยังอยู่ วันพรุ่งนี้ ก็ต้องได้ เคย แน่นอน
แต่... เคย ที่ได้มาเพียงน้อยนิดจะนำกลับไปทำอะไรดี???
(อ่านต่อฉบับหน้า)
ผู้เขียน สุจารี ไชยบุญ
องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน |